เครือซีพี ร่วมกับ ภาครัฐ-ภาคประชาสังคม–ชุมชน เดินหน้าเพิ่มพื้นที่ป่าชุมชนน่านกว่า 1 หมื่นไร่ ในงาน “ปลูกป่า 9 ปี น้ำพางโมเดล เติมป่าน่าน เพื่อความยั่งยืน”
เมื่อเร็วๆนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับ หน่วยงานราชการ และชุมชนตำบลน้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน จัดงาน “ปลูกป่า 9 ปี น้ำพางโมเดล เติมป่าน่าน เพื่อความยั่งยืน” โดยมี นายสิโรตม์ ชมใจ นายอำเภอแม่จริม เป็นประธาน พร้อมด้วย นายสวาท ธรรมรักษา กำนันตำบลน้ำพาง ที่ปรึกษาน้ำพางโมเดล นายอรรถวิทย์ ยุทธยศ ผู้จัดการทั่วไป ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้นำชุมชน และเกษตรกรในโครงการน้ำพางโมเดล ร่วมกันปลูกต้นไม้ จำนวน 10,000 ต้น ครอบคลุม 11 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชุมชน 10,000 ไร่ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในป่าชุมชน ตำบลน้ำพาง โดยงานจัดขึ้น ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยสาง บ้านน้ำพาง ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน
นายสิโรตม์ ชมใจ นายอำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน เปิดเผยว่า โครงการ “น้ำพางโมเดล” เป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคประชาชนและภาคเอกชน ภายใต้โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน และพัฒนาคุณภาพชีวิต โดย เครือเจริญโภคภัณฑ์ สนับสนุนกิจกรรมปลูกป่า 9 ปีน้ำพางโมเดล “เติมป่าน่าน เพื่อความยั่งยืน” ภายใต้โครงการ ซีพี ร้อย รักษ์โลก ร่วมกับ น้ำพางโมเดล อำเภอแม่จริม หน่วยจัดการต้นน้ำแม่จริม และ อบต.น้ำพาง ถือเป็นการสร้างความยั่งยืนทั้งด้านอาชีพและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
ด้าน นายอรรถวิทย์ ยุทธยศ ผู้จัดการทั่วไป ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือซีพีเข้ามาดำเนินงานด้านความยั่งยืนในพื้นที่ ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน ร่วมกับภาครัฐ ภาคประชาสังคมและชุมชน อย่างจริงจังเข้าปีที่ 8 ผ่านโครงการ “น้ำพางโมเดล” เพื่อชุมชนสามารถกำหนดขอบเขต ป้องกันการบุกรุกป่าเพิ่ม รักษาป่าให้คงสภาพ และสร้างระบบนิเวศน์ป่าใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนจากพืชเชิงเดี่ยวสู่เกษตรผสมผสาน และเป็นต้นแบบให้คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างสมดุลและยั่งยืน อีกทั้งเป็นต้นแบบของการบูรณาการระหว่าง ภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคเอกชน โดยมีการสนับสนุนการเพิ่มพื้นที่ป่า ปลูกต้นไม้เป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ จัดกิจกรรมปลูกป่า 9 ปีน้ำพางโมเดล “เติมป่าน่าน เพื่อความยั่งยืน” ภายใต้โครงการ ซีพี ร้อย รักษ์โลก ปลูกต้นไม้ จำนวน 10,000 ต้น ในพื้นที่ป่าชุมชน 10,000 ไร่ ครอบคลุม 11 หมู่บ้าน เพื่อเสริมป่าชุมชนให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ปลูกฝังให้ชุมชนเห็นความสำคัญของป่าชุมชนเพื่อช่วยกันดูแล และอนุรักษ์ให้คงอยู่กับชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป