อบาคัส ดิจิทัล หนุน ธปท. ดันนโยบาย Open Data ชูแอปมันนี่ทันเดอร์ ช่วยปลดล็อคโอกาสทางการเงิน
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันมันนี่ทันเดอร์ (MoneyThunder) ได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อ เพื่อนำเสนอผลงานการประยุกต์ใช้ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อยกระดับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ในงานเปิดตัวโครงการ “Your Data ข้อมูลของคุณ สู่บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนากลไกให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิส่งข้อมูลของตนที่อยู่กับผู้ให้บริการและหน่วยงานต่างๆ ไปยังผู้ให้บริการที่ตนต้องการใช้บริการ ผ่านช่องทางดิจิทัลได้สะดวกและปลอดภัย เพื่อให้ได้รับบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อและการบริหารจัดการทางการเงินที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ดร.ณัฐ เพชระบูรณิน Chief Data & AI Officer บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่านโยบาย Open Data จะเป็นก้าวสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทางการเงินของประเทศไทย โดยมันนี่ทันเดอร์เป็นแอปพลิเคชันสินเชื่อรายแรกในประเทศไทยที่นำข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) เช่น ข้อมูลสเตทเม้นท์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และข้อมูลการขายสินค้าออนไลน์ มาใช้เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อ พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำเสนอสินเชื่อที่เหมาะสมให้กับลูกค้าแต่ละราย สามารถให้ผลอนุมัติสินเชื่อได้เร็วสุดภายใน 2 นาที อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการอนุมัติ โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้มากขึ้น ปัจจุบันพบว่ากว่า 30% ของลูกค้าของแอปพลิเคชันมันนี่ทันเดอร์เคยถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร และ 1 ใน 3 ของลูกค้าเคยพึ่งพาการกู้นอกระบบมาก่อน แอปพลิเคชันมันนี่ทันเดอร์จึงเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสของโครงการ Open Data ในการสร้างประโยชน์แก่ผู้บริโภคในอนาคตอย่างแท้จริง
Open Data จะช่วยยกระดับความปลอดภัยในการส่งและรับข้อมูล (Data Security) ทั้งยังเปิดโอกาสให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ในวงกว้าง เช่น Loan Aggregator ที่ช่วยเปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อจากผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัวเลือกที่ดีที่สุด, Debt Payment Optimizer ที่ช่วยแนะนำการบริหารจัดการหนี้ และ Personal Finance Advisor ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสร้างวินัยทางการเงิน ตั้งแต่การออมเงินไปจนถึงการจัดการรายจ่ายที่ไม่จำเป็นอย่างง่ายดาย
ดร.ณัฐเน้นย้ำว่า โครงการ Open Data เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนมีสิทธิ์ในการใช้ข้อมูลของตนเองตามวัตถุประสงค์ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่สำคัญ และจะช่วยลดช่องว่างทางการเงินในประเทศไทย