คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ใช้ 3 เทคโนโลยีจาก SCG เพื่อยกระดับคุณภาพอากาศสะอาดปลอดภัยในโรงพยาบาลพร้อมประหยัดพลังงาน
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี นำโดย รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี (ขวา) ร่วมกับ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด นำโดย นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business (ซ้าย) ร่วมแสดงจุดยืนความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านการดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่โรงพยาบาล ที่ต้องให้การดูแลประชาชนและรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก โดยการใช้ 3 เทคโนโลยีเพื่ออากาศสะอาดปลอดภัยจากเอสซีจี ได้แก่ ระบบบำบัดอากาศเสียพร้อมลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ, ระบบกรองอากาศขั้นสูงและระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศ รวมทั้งมีระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบ Real time เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้นในคุณภาพอากาศภายในโรงพยาบาลที่ได้รับการดูแลและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับคุณภาพอากาศในโรงพยาบาลให้ได้มาตรฐานที่สะอาด ปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงควบคุมให้คุณภาพอากาศภายในอาคารมีค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ผ่านตามค่ามาตรฐาน ทั้งยังช่วยให้อาคารประหยัดพลังงาน โดยหน่วยงาน SCG Smart Building Solution ผู้ให้บริการโซลูชันด้านพลังงานและคุณภาพอากาศที่ดีในอาคารเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน มีความพร้อมในการนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ พร้อมเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ของทางโรงพยาบาลรามาธิบดีได้
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี วางแผนดำเนินการติดตั้งโซลูชันเพื่อดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ บริเวณคลินิกผู้ป่วยนอก ชั้น 1-4 โดยเน้นไปในเรื่องของการจัดการเชื้อโรคและมลพิษในอากาศต่างๆ รวมถึงฝุ่น PM2.5 ด้วยระบบ SCG Bi-ion และ SCG Air Filter นอกจากนี้ยังเลือกใช้โซลูชันเพื่ออาคารประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมดูแลคุณภาพอากาศ ด้วยระบบ SCG Air Scrubber ซึ่งเป็นระบบบำบัดอากาศเสียในอาคาร และลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ ที่สามารถลดการใช้พลังงานในอาคารได้สูงสุดถึง 30% เพื่อเป็นต้นแบบของโรงพยาบาลที่ส่งเสริมด้านสุขภาพและสุขภาวะที่ดีแก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงผลักดันด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญเพื่อโลกที่ยั่งยืนให้กับหลายหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต”
รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า “โดยพื้นฐานแล้วทางโรงพยาบาลเราให้ความสำคัญและตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้มารับบริการ นอกจากในมิติทางการแพทย์การดูแลรักษา เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นทีมวิศวกรรมหรืออาชีวอนามัยจะมีการเฝ้าระวังตรวจสอบพื้นที่ของโรงพยาบาลใน 3 พื้นที่หลัก ทั้งในส่วนของอาคาร ห้องผ่าตัด รวมถึงอาคารผู้ป่วยนอก เพื่อความปลอดภัยอยู่เสมอ และหากพบสิ่งผิดปกติก็จะเข้าไปแก้ไขทันที
สำหรับอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ซึ่งปกติแล้วจะรองรับคนไข้นอกราว 5,000 คนต่อวัน จากที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศในอาคาร พบว่ามีค่าคาร์บอนไดออกไซด์ในอาคารสูงกว่ามาตรฐานซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ทางโรงพยาบาลมองว่าเราต้องรักษามาตรฐานอากาศในอาคารให้มีคุณภาพที่ดีและปลอดภัยอยู่เสมอ เราจึงศึกษาการไหลเวียนของอากาศ เพื่อทำให้อากาศในอาคารดีขึ้นและส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอาคารเจือจางลง ซึ่งโซลูชันจากทางเอสซีจีสามารถช่วยดูแลได้ทั้งด้านการดูแลคุณภาพอากาศ จากการไหลเวียนและบำบัดอากาศในอาคารไปพร้อมกับการประหยัดพลังงานจากระบบปรับอากาศ โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้สูงสุดถึง 30% ซึ่งส่งผลดีให้กับทั้งทางโรงพยาบาล ผู้มารับบริการ รวมถึงบุคลากรของโรงพยาบาลให้มั่นใจในคุณภาพอากาศในอาคารมากยิ่งขึ้น”