มติ ครม. ขยายเวลาจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอีก2 ปี เหตุกระทรวงพลังงานชี้มีความจำเป็น-สร้างแรงจูงใจคนใช้ อาศัยกลไลกองทุนน้ำมันชดเชยราคาขายปลีกและช่วยเกษตรกรให้มีรายได้จาการขายพืชผล
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 20 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ได้พิจารณาขยายระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพออกไปอีก 2 ปี จนถึงวันที่ 24 กันยายน 2567 เนื่องจากกระทรวงพลังงานพิจารณาแล้วยังมีความจำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวต่อไป เพื่อจูงใจให้เกิดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ (ไบโอดีเซล และเอทานอล) โดยอาศัยกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการชดเชยส่วนต่างราคาขายปลีก และยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้จากการขายพืชผลทางการเกษตรกร
สำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ ไบโอดีเซลซึ่งเป็นส่วนผสมในน้ำมันดีเซล และเอทานอลซึ่งเป็นส่วนผสมในน้ำมันเบนซินเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล ซึ่งตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 มีบทเฉพาะกาล ระบุใจความสำคัญว่า นับตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ การจ่ายเงินชดเชยแก่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงชีวภาพซึ่งดำเนินการมาก่อนหน้านี้ให้ดำเนินต่อไปอีก 3 ปีนับตั้งแต่ พ.ร.บ. นี้ใช้บังคับ หรือภายในวันที่ 24 กันยายน 2565 โดยทยอยลดการจ่ายเงินชดเชยทุกรอบระยะเวลา 1 ปี แต่หากมีความจำเป็นต้องขยายเวลาออกไป กพช. เสนอต่อ ครม.ขยายระยะเวลาได้อีกไม่เกิน 2 ครั้งๆ ละไม่เกิน 2 ปี
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ครม. ยังเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และมาตรการ เพื่อลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 โดยใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกลในการจูงใจให้ใช้น้ำมันเบนซิน และดีเซล ชนิดพื้นฐานตามที่ภาครัฐกำหนด
ที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนอกจากจะมีบทบาทช่วยพยุงราคาน้ำมันภายในประเทศในภาวะวิกฤตแล้ว ยังเป็นเครื่องมือส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และใช้เป็นกลไกในการพยุงราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่ราคาจะตกต่ำมาตลอด เป็นการช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น และเป็นการส่งเสริมเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต่อมาภายหลังมีการออก พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ซึ่งได้กำหนดให้การชดเชยน้ำมันที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพจะต้องถูกทยอยยกเลิกไปเพื่อให้สะท้อนกลไกตลาดที่แท้จริง แต่เนื่องจากภาวะวิกฤตพลังงานในห้วงเวลานี้มีความจำเป็นต้องยืดระยะเวลาออกไปเพื่อให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีเวลาในการปรับตัวระยะหนึ่งก่อน