“กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เดินหน้าเต็มตัวหลังนักลงทุนแลกหุ้น “SCB” เป็น “SCBX” ล้นหลามกว่า 99% สะท้อนความเชื่อมั่นในแผนปรับโครงสร้างธุรกิจและยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตของกลุ่มฯ
“เอสซีบี เอกซ์” ขึ้นเป็นยานแม่ของกลุ่มธุรกิจแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ หลังได้นำหุ้นที่ได้รับแลกเข้าจดทะเบียนเพิ่มทุนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ววันนี้ (22 เมษายน 2565) โดยกำหนดระยะในการแลกหุ้น “SCB” เป็น “SCBX” ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากกลุ่มนักลงทุนผู้ถือหุ้นของ SCB ได้ตอบรับคำเสนอซื้อ (Tender Offer) สูงถึงกว่า 99% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้น สะท้อนภาพความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการปรับโครงสร้างธุรกิจ และแผนยุทธศาสตร์ “ยานแม่” ของกลุ่มฯ ที่มุ่งสร้างมูลค่าจากธุรกิจใหม่ให้มีขนาดที่มีนัยยะสำคัญ เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนและแข็งแรงให้กับผู้ถือหุ้นต่อไปในระยะยาว ทั้งนี้ เตรียมนำ SCBX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเพิกถอนหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ออกจากตลาดในวันเดียวกันต่อไป
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ให้การตอบรับกระบวนการแลกหุ้นจากธนาคารไทยพาณิชย์ “SCB” เป็น “SCBX” สูงถึง 99% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด นับเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 90% ซึ่งเสียงตอบรับในครั้งนี้นอกจากจะสื่อถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของกลุ่มฯ แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นที่มีต่อแผนยุทธศาสตร์ “ยานแม่” มุ่งยกระดับองค์กรสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาค ที่สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้อย่างทัดเทียม”
กระบวนการหลังจากนี้คือการนำหุ้น “SCBX” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้น “SCBX” ในตลาดหลักทรัพย์ได้ และจะเพิกถอนหลักทรัพย์ของธนาคารไทยพาณิชย์ออกจากตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ หุ้น “SCBX” เมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ จะยังคงใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “SCB” เช่นเดิม
“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการเติบโตของธุรกิจภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ในหลายด้าน โดยมีบทบาทเป็น “ยานแม่” นำพากลุ่มฯ ให้มีขีดความสามารถในการสร้างมูลค่าจากธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรมการเงินเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีขนาดที่มีนัยยะสำคัญ รวมทั้งเพิ่มความชัดเจนในการทำธุรกิจของกลุ่มฯ ให้สามารถขยายและพัฒนาธุรกิจใหม่ที่มีอนาคตได้อย่างเต็มที่ มีการแบ่งแยกการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของกลุ่มฯ โดยรวม และจะนำไปสู่โอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX ที่จะขึ้นเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มฯ รวมถึงธุรกิจใหม่ในอนาคตในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตและมีศักยภาพสูง” นายอาทิตย์ กล่าวเสริม