ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด จัดอบรมวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม “ตามรอยพระราชา” รุ่นที่ 2
ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ร่วมกับ มูลนิธิธรรมดี และมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด จัดอบรมวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม Sustainability c Moral “ตามรอยพระราชา” สร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากศาสตร์พระราชา รุ่นที่ 2 เชื่อมโยงนโยบาย UN Sustainability Goals เป้าหมายความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เพื่อให้วิทยากรสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้สู่สากล เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมโลกได้ และส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่และปราชญ์ชาวบ้านในแหล่งเรียนรู้ ให้เป็นวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม “ตามรอยพระราชา”
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา ได้กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย รวมถึงสภาพแวดล้อมที่กำลังถูกทำลาย โดยได้กล่าวด้วยความห่วงใยว่า ทุกวันนี้ ป่าหายไป น้ำแล้ง ปอดไม่ได้ฟอก เราควรต้องรู้ว่า จะบริหารจัดการแผ่นดิน ให้อยู่รอดได้อย่างไร เมื่อเราตักข้าวใส่จาน แล้วมองไปในจานข้าว ถ้าไม่มี ดิน น้ำ ลม ไฟ เราก็ไม่มีข้าวในจาน เทคโนโลยี AI ก็ช่วยไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ของจริง สุดท้ายเราก็ต้องกลับมาหาของจริง สิ่งที่ธรรมชาติให้มาคือ “ดิน” “น้ำ” “ลม” “ไฟ” สิ่งที่พระองค์ท่านในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงฝากไว้คือ “ความยั่งยืน”
ดร.สุเมธ ให้ข้อคิดว่า โจทย์ใหญ่คือเราต้องพยายามชี้ให้เห็นถึง การใช้ชีวิตและดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยความรับผิดชอบ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านทรงมีความรับผิดชอบ ทรงให้ความรักและมีเมตตา จากที่ล้นเกล้าได้ทรงตรัสไว้ว่า เราจะครองแผ่นดิน แสดงให้เห็นว่า “การครอง” เป็นเรื่องของจิตใจ ความรักและ ความเมตตา แต่ท่านไม่ได้ปกครองเพราะ ”ปกครอง” เป็นเรื่องของอำนาจ การตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน คือเราควรทำทุกอย่างเพื่อให้เข้าใจตัวเอง การสอนให้ทุกคน “เห็นแก่ตัว” อย่างสร้างสรรค์ และมีสติปัญญา คือให้เข้าใจตัวเองอย่างแท้จริงว่าตัวเองต้องการอะไร เพื่อให้อยู่ได้บนโลกใบนี้ และจะอยู่รอดได้อย่าง “อย่างยั่งยืน”
ดร. สุเมธ ยังให้ความสำคัญในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะมนุษย์เป็นผู้สร้าง และเป็นผู้ทำลาย ทุกอย่างที่ผ่านการใช้งานจากมนุษย์ก็คือขยะ ถ้าเราสามารถลดขยะ หรือทำขยะเป็นเงินได้ ก็เป็นประโยชน์ ทศวรรษหน้า จะเกิดการแย่งทรัพยากร “น้ำ” ถ้าเราไม่มีน้ำ คือ ตาย ที่เห็นตัวอย่าง แม่น้ำโขง มีปัญหา ถ้าจีนปิดเขื่อน น้ำด้านล่างจะไม่มี
นอกจากนี้ ท่านได้ให้ข้อสังเกต ในเรื่องของการประมาณตน เราเคยฝันอยากเป็นเสือในอุตสาหกรรมก็ควรต้องประมาณตน การที่จะ “ประมาณตน” ได้ ต้องมีการ “ประเมินตน”ก่อน ดูทุกอย่างให้รอบคอบ การประมาณตน คือ พอประมาณ เราฝันเป็น “ควาย” ดีกว่า อย่าฝันเป็น “เสือ” เลย เพราะควายคือรากของเรา ควายเลี้ยงดูเรามาตลอดชีวิต เราอย่าลืมศาสตร์เก่า อย่าลืม “ราก” รากเดิมของเราแตกกิ่งก้านได้ รากสำคัญ แร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเติบโตจะต้องใช้รากส่งผ่าน คือจุดขายของความเป็นไทย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ดังนั้น ถ้าคุณถนัดอะไร ก็ทำไป ทุนเรามีอย่างนี้ เราก็ทำอย่างนี้ พอเราไปเป็นเสือ เงินก็ต้องยืมเค้ามา ถ้าเดินผิดทางก็ต้องไปอาศัยคนอื่นตลอด เราคุยได้อย่างเดียวว่า ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร แต่ในทางปฏิบัติ มันก็ขึ้นอยู่กับเขานั่นหล่ะ เราเอาสมบัติ ที่ดินของของเราไปลงกับเค้า เราไม่เลือกเดินเส้นทางที่ถูกต้อง พระเจ้าอยู่หัวไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ท่านให้ความสำคัญ กับ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาตลอด คำสอนของพระองค์ท่าน ในการทำงาน ทรงสอน ทรงชี้นำเป็นแสงประทีปให้เราเดินทางไปสู่ความยั่งยืนได้
การศึกษาของบ้านเราสอนแต่ให้รู้เขา ไม่ได้สอนให้รู้เรา Thai way of Life คืออะไร เรามัวแต่เอา American way of life มาใช้เพราะเค้ามีความเป็นสากล แต่เราไม่เคยคิดสร้างความเป็นสากลของเราเอง สากลของเราคือดูคนอื่นทำแล้วเดินตามทำไมเราไม่สร้างเอง ในหลวงรัชกาลที่ 9 สอนให้เป็นเศรษฐี อย่างยั่งยืน (เศรษฐกิจพอเพียง) แต่ต่างชาติ สอนความกระหาย ความยิ่งใหญ่ ความโลภ เป็นทุนนิยม ดร สุเมธ กล่าว
โครงการอบรมวิทยากรส่งเสริมคุณธรรม Sustainability c Moral “ตามรอยพระราชา” สร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากศาสตร์พระราชา รุ่นที่ 2 นั้นสอดคล้องกับคำสอนของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงดำริไว้ ดังนั้นการถ่ายทอดเรื่องราวศาสตร์พระราชาการบูรณาการศาสตร์ต่างๆ กับการเชื่อมโยงกระแสนโยบาย Sustainable Development Goals เป้าหมายความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ ซึ่งเป็นหลักสูตรอบรมแบบไฮบริด ออนไลน์อินเตอร์แอคทีฟ 2 วัน ด้วยระบบ Zoom และConcept Board / Interactive training และลงพื้นที่ทำกิจกรรม 1 วัน สอดแทรกคุณธรรม 4 ประการ โดยได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตรี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม บรรยายพิเศษในหัวข้อ “คุณธรรม” สู่นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เสริมทัพหลักสูตรคุณธรรม โดย ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิศูนย์คุณธรรม และประธานมูลนิธิธรรมดี อัดแน่นความรู้กับกิจกรรมเวิร์กชอป “4 Moral Principles คุณธรรม 4 ประการ” โดย อาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย ให้เกียรติเป็นวิทยากรประจำหลักสูตร ทั้งนี้ในรุ่น 2 ได้รับความสนใจจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จากโครงการในพระราชดำริ รวมทั้งกลุ่มเยาวชน อาทิ Miss Tourism World ทูตการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งการอบรม และการเป็นวิทยากรแบ่งปันประสบการณ์ด้านเทคนิคการนำเสนอ ที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ
นอกจากนี้ วิทยากรผู้เข้าอบรมจะได้สัมผัสกระบวนการเรียนรู้ ที่สามารถตอบสนองกับความท้าทายต่างๆ ด้วยบอร์ดเกม และลงพื้นที่ เดินตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างประสบการณ์จริง และการนำเอาเครื่องมือที่ได้จากการทำ Workshop มานำเสนอและแบ่งปันการเรียนรู้ในความสามารถในการถ่ายทอด “ศาสตร์พระราชา” ที่เชื่อมโยงไปถึง UNSDGs ณ โครงการเขื่อนคลองท่าด่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (เขื่อนขุนด่านปราการชล) จ.นครนายก การเรียนรู้การแก้ปัญหา “น้ำ ดิน ป่าไม้” แบบยั่งยืนตามศาสตร์พระราชา
คาดหวังว่าผู้เข้ารับการอบรม จะได้เข้าใจถึงกระบวนการในการออกแบบกิจกรรม “สืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมการถ่ายทอดศาสตร์พระราชา ในพื้นที่ของตน และเกิดการบูรณาการ การพัฒนานวัตกรรมศาสตร์พระราชา ให้กับผู้บริหารองค์กรภาคีต่างๆ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่อไป
สามารถติดต่อได้ที่มูลนิธิธรรมดี เว็บไซต์ http://www.do-d-foundation.com แฟนเพจ: ตามรอยพระราชา-The King's Journey Facebook: มูลนิธิธรรมดีและ LINE Official: @dfoundation