กรมราชทัณฑ์เผยผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่ม 26 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 412 ราย มีผู้ต้องขังรักษาหายแล้วเกือบ 80% แจงฉีดวัคซีนไปแล้ว 42 เรือนจำ พร้อมเตรียมแผนกระจายการฉีดเพิ่มทั่วประเทศ
............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ในเรือนจำและทัณฑสถาน มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 26 ราย รักษาหายวันนี้ 412 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,499 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตในวันนี้
ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ ยังคงมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยพบเรือนจำและทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีขาวไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 129 แห่ง และแดงที่พบการแพร่ระบาด 12 แห่งคงเดิม โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้มีจำนวนที่ลดลง และเป็นการตรวจพบการติดเชื้อจากเรือนจำและทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาดเดิม จากการ SWAB เพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำ จำนวน 25 ราย และพบในห้องกักโรค 1 รายจากเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่จากภายนอก ขณะที่มีจำนวนผู้รักษาหายวันนี้ 412 ราย รวมหายป่วยสะสม 26,523 ร้าย หรือเกือบ 80% ของผู้ติดเชื้อสะสม และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตต่อเนื่อง เป็นวันที่ 4 มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 28 ราย หรือ 0.089 ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าแนวโน้มของสถานการณ์จะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่น้อยลง จำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายเพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการคัดกรองผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่สามารถตรวจหาเชื้อและสกัดไม่ให้นำเชื้อเข้าสู่เรือนจำหรือทัณฑสถานชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ ยังคงเน้นย้ำ ให้เรือนจำหรือทัณฑสถานทุกแห่ง รักษามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดอย่างเคร่งครัด ทั้งการป้องกันเชื้อ การค้นหาและดูแลรักษาผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว การป้องกันไม่ให้นำเชื้อออกสู่ภายนอก และการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง
โดยการดำเนินการเพื่อบริหารจัดการวัคซีน นายอายุตม์ฯ เปิดเผยว่า ปัจุจุบัน มีเรือนจำหรือทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 42 แห่ง รวมทั้งสิ้นจำนวน 51,003 โดส เป็นวัคซี นที่ได้รับการจัดสรรจากกรมควบคุมโรค 41 แห่ง จำนวน 45,000 โดส และจากจังหวัดภูเก็ตที่จัดสรรให้เรือนจำจังหวัดภูเก็ตอีก 1 แห่ง ซึ่งครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายแรก คือ เรือนจำสีขาวในพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้ม เรือนจำสีแดงที่สามารถแยกผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อเพื่อรับวัคซีนได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเป็นพิเศษ และในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกระจายวัคซีนไปยังเรือนจำสีขาวในเขตพื้นที่ อื่นๆ จนกว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการฉีดวัคซีนในเข็มที่ 2 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับแผนการกระจายวัคซีนของประชาชนทั่วไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage