มทร.อีสาน ผนึกกำลัง 3 วิทยาเขต และโครงการจัดตั้งวิทยาเขตร้อยเอ็ด ทุ่งกุลาร้องไห้ เปิดพื้นที่ฉีดวัคซีน ตั้งโรงพยาบาลสนาม รับมือโควิด
........................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2564 ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทั้ง 3 ระลอก ซึ่งกินเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุกภาคส่วนเกิดความเสียหายซึ่งมีผลกระทบทั่วโลก เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว มทร.อีสานมีส่วนร่วมในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าวภายใต้นโยบายของสภามหาวิทยาลัย โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภา มทร.อีสาน มีความห่วงใยนักศึกษา บุคลากร ผู้ปกครอง และภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จึงมอบหมายให้ผู้บริหาร มทร.อีสาน กำหนดมาตรการในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว อาทิ การลดค่าเทอม 10% การปิดพื้นที่และให้บุคลากรทำงานที่บ้าน หรือ Work from home พร้อมทั้งมอบนโยบายให้ทุกวิทยาเขตสนับสนุนการทำงานให้กับส่วนราชการที่วิทยาเขตตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็น วิทยาเขตขอนแก่น วิทยาเขตสุรินทร์ วิทยาเขตสกลนคร และโครงการจัดตั้งวิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ รวมถึงการสนับสนุนให้บุคลากรและนักศึกษาทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องโควิด
ขณะนี้บุคลากรและนักศึกษาได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วทุกวิทยาเขต รวมกว่า 40% โดยหลังการฉีดวัคซีนไม่เกิดอาการข้างเคียงใดที่น่ากังวล และ มทร.อีสาน ได้มีการสนับสนุนให้บุคลากรและนักศึกษาลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนให้ครบ 100% ในส่วนพื้นที่นครราชสีมาได้ดำเนินการส่งบุคลากรจิตอาสา มทร.อีสาน ในการสายด่วนลงทะเบียนรับวัคซีน ตั้งแต่เดือน พ.ค. ถึงเดือน ก.ย.2564 ณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและมีการส่งบุคลากรจิตอาสาวันละ 60 คน และอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 50 เครื่อง เพื่อให้บริการรับลงทะเบียนผู้ฉีดวัคซีน ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลนครราชสีมา
ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตสกลนคร กล่าวด้วยว่า ในส่วนของวิทยาเขตสกลนครนั้น ได้ตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพชีวิตและการได้รับการเข้าถึงการฉีดวัคซีนของประชาชนคนไทย จึงได้สนับสนุนพื้นที่ห้องประชุมราชมงคล อาคาร 12 ซึ่งเป็นสถานที่กว้างขวาง โล่ง โปร่ง เย็นสบาย มีจุดพักคอย มีสถานที่จอดรถที่สะดวกสบาย เพื่อให้เป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลพังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร เนื่องจากพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลนั้นคับแคบและมีข้อจำกัดด้านการเว้นระยะห่าง รวมถึงการสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบไฟฟ้า อินเทอร์เนต โต๊ะ เก้าอี้ และบุคลากรให้บริการอำนวยความสะดวกตลอดการให้บริการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. เป็นต้นไป โดยจะเป็นการฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในกลุ่ม 7 โรค ประชาชนทั่วไป และบุคลากร มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร
ด้าน ผศ.ดร.อาดา รัยมธุรพงษ์ รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการป้องกันโควิด ของ มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่นนั้น เราดำเนินงานตามนโยบายของ มทร.อีสาน ร่วมกับประกาศจากจังหวัดขอนแก่นและกระทรวงสาธารณสุข ทั้งด้านมาตรการเฝ้าระวัง การรณรงค์ให้บุคลากรและนักศึกษาปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งระดมแม่บ้านทำความสะอาดบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เช่น ลิฟท์ ราวบันได กลอนประตู ฯลฯ และการเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรและนักศึกษา ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนตามที่ได้รับจัดสรรของจังหวัดขอนแก่น ตามสื่อต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก เว็บไซต์ ป้ายไฟอิเล็กทรอนิกส์ และป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ เป็นต้น
ด้าน รศ.ดร.สำเนาว์ เสาวกูล รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตสุรินทร์ กล่าวว่า มทร.อีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือโควิด โดยให้ความร่วมมือจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ในช่วงการระบาดไวรัสโควิด ในระลอกที่ 3 โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารวิทยาเขตสุรินทร์ได้มีมติเห็นพ้องต้องกันในการเปิดพื้นที่ห้องประชุมของวิทยาเขตสุรินทร์ปรับเป็นโรงพยาบาลสนามให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์ เนื่องจากเรามีพื้นที่ขนาดใหญ่ อากาศโปร่ง สบาย รองรับการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้บุคลากรและนักศึกษาลงทะเบียนและฉีดวัคซีนให้ได้ 100% โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อาทิ เฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ นอกจากวิทยาเขตต่างๆ ข้างต้นแล้ว ยังมีในส่วนของโครงการจัดตั้งวิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ โดยมี ผศ.ดร.เอนก เจริญภักดี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการสภามหาวิทยาลัยและโครงการพิเศษ เป็นผู้กำกับดูแลนั้น เบื้องต้นได้มีการสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนโควิด ของนักศึกษาและบุคลากรแล้ว ซึ่งรายชื่อกลุ่มนี้จะรวบรวมและนำไปพิจารณาร่วมกับกลุ่มของ มทร.อีสาน นครราชสีมา เพื่อเป็นการช่วยเหลือและดูแลบุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยให้ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage