ผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 534 ราย รักษาหายอีก 158 ราย และเสียชีวิต 3 ราย กรมราชทัณฑ์เผยเรือนจำ 9 แห่ง ฉีดวัคซีนโควิดครบ 100% วางแผนฉีดเพิ่มกว่า 30 แห่ง
...............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิ.ย. 2564 เวลา 16.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 534 ราย รักษาหายเพิ่ม 158 ราย เสียชีวิต 3 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,392 ราย
ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำและทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 126 แห่ง พบการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งคงเดิม ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้จะมีจำนวนเรือนจำและทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดเพิ่ม รวมถึงการเปลี่ยนสถานะจากเรือนจำและทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาดให้เป็นเรือนจำที่ไม่พบการแพร่ระบาดได้เพิ่ม ทั้งนี้ การดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปตามแนวทางของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับแผนการป้องกันเชื้อ รวมถึงการรักษาผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานทางการแพทย์ทุกประการ
ด้านการดำเนินการฉีดวัคซีน นายอายุตม์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้ว 17,054 ราย ในเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 9 แห่ง ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิ.ย. 2564 คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำพิเศษพัทยา ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีเรือนจำและทัณฑสถานที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ 7 แห่ง คือ เรือนจำอำเภอธัญบุรี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เรือนจำกลางชลบุรี เรือนจำกลางราชบุรี เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี และเรือนจำอำเภอไชยา
โดยมีเรือนจำ/ทัณฑสถาน อีกจำนวน 26 แห่ง ทั้งเรือนจำสีขาวในพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี เรือนจำอำเภอธัญบุรี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางเพชรบุรี และเรือนจำสีขาวในพื้นที่สีแดง ที่จะดำเนินการฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง และผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด จากการยืนยันทางการแพทย์ ซึ่งจะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวเช่นเดียวกัน และเมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมจะดำเนินการกระจายวัคซีนไปยังกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการฉีด จนกระทั่งครอบคลุมทุกราย ซึ่งรวมถึงการดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเรือนจำและทัณฑสถานที่มีการฉีดเข็มแรกไปแล้ว เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและให้วัคซีนสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
กรณีผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 3 รายในวันนี้ นายอายุตม์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังทั้ง 3 รายได้ถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นผู้ต้องขังจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เรือนจำพิเศษธนบุรี และเรือนจำกลางคลองเปรม ทั้ง 3 ราย เป็นผู้ต้องขังในกลุ่มเปราะบาง คือ มีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน ความดัน มีภาวะไตวาย และบางรายเป็นผู้ป่วยสูงอายุ ที่มีภาวะความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง โดยมี 2 รายได้ถูกส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ และโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่อาการยังคงทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิตให้แก่ญาติ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด ของสถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage