ตำรวจเปิดยุทธการ 'ข้ามฟ้า ล่าแอปเงินกู้นอกระบบ' บุกจับแก๊งนายทุนเงินกู้นอกระบบ เงินหมุนเวียน ในบัญชีกว่า 200 ล้านบาท ตั้งฐานทวงหนี้ริมชายแดน มีพนักงานทวงหนี้ แบบเวิร์กฟอร์มโฮมอีกกว่าร้อยคน
.............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร.ในฐานะผอ.ศปน.ตร. พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผอ.ศปน.ตร. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.สง.ก.ตร.และรอง ผอ.ศปน.ตร. พล.ต.ท.สมชาย เกาสำราญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.และเลขานุการ ศปน.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) แถลงผลดำเนินการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างเป็นรูปธรรม ทาง พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน พ.ต.ท.กริช วรทัต รองผกก.5 บก.ปอศ. พร้อมตำรวจสังกัด กก.5 บก.ปอศ. สืบสวนปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเอารัดเอาเปรียบและการทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมายอย่างจริงจัง จนพบว่าแอปพลิเคชั่น Consumer Finance และ Mini Loan ดำเนินงานโดย บริษัท ไทย วาลี จำกัด มีการประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมายเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และมีการทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย ย้ายที่อยู่เพื่อหลบหนีการจับกุมมาหลายครั้ง โดยหลบมาเช่าบ้านพักเป็นฐานสำหรับติดตามทวงถามหนี้และใช้เป็นที่พักพนักงาน อยู่ที่ หมู่ที่ 19 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ทั้งนี้สำหรับตัวนายทุนจะแยกไปสั่งการและบริหารงาน อยู่บนดอยแม่สลอง ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อตะเข็บชายแดน เพื่อสะดวกต่อการหลบหนีและยากต่อการติดตามจับกุม
ต่อมาตำรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) โดย กก.5 บก.ปอศ. พร้อมตำรวจ กก.ตชด.32 , กก.12 บก.รน. , กก.5 บก.ทล. และ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย นำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงรายเข้าตรวจค้นสถานที่ทั้ง 2 แห่งดังกล่าว โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย 1.นายอนุวัตร กังสดาลบรรพต กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ 2.น.ส. สุภาวรรณ กังสดาลบรรพต ทำหน้าที่ควบคุมพนักงานทวงหนี้ 3.น.ส.ปิยฉัตร นภาพันธ์ ทำหน้าที่อนุมัติสินเชื่อ 4.นายภัทรณิชา โพธิกุล ทำหน้าที่ฝ่ายบุคคล และจับกุมพนักงานทวงหนี้ของบริษัทฯอยู่ในที่เกิดเหตุอีก 6 คน พร้อมตรวจยึดของกลางประกอบด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 19 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 50 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม แฟ้มประวัติพนักงาน 3 แฟ้ม เอกสารแนะนำทวงหนี้ 3 ชุด เอกสารที่เกี่ยวข้อง 1 ลัง จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดว่า ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ,ร่วมกันกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรงหรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
พล.ต.อ.ปิยะ พล.ต.ต.ไมตรี และ พ.ต.อ.ภาดล ร่วมกันสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดดังกล่าวจริง โดยมีการปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ ปัจจุบันมีฐานลูกหนี้ทั่วประเทศกว่า 30,000 คน พนักงานทวงหนี้ของบริษัทจะทำการทวงหนี้วันละ 3,500 คน/วัน ทั้งนี้บริษัทยังมีการกระทำความผิดเชื่อมโยงทั้งหมด 21 แอปพลิเคชั่น มีพนักงานทวงหนี้ กว่า 100 คน โดยเมื่อรับพนักงานทวงหนี้เข้ามาจะทำการอบรมพร้อมแจกเอกสารวิธีทวงหนี้ให้พนักงาน จากนั้นจะให้แยกย้ายไปทำงานทวงหนี้แบบ เวิร์กฟอร์มโฮม เพื่อไม่ให้มีพนักงานรวมกันอยู่จำนวนมากเป็นที่ผิดสังเกต โดยในเอกสารจะระบุวิธีการทวงหนี้ต่างๆ เช่น การพูดกดดันทำอย่างไร ควรโทรเวลาไหน ถ้าลูกหนี้ปิดเครื่องหรือบล็อกเบอร์ให้โทรทวงกับคนใกล้ชิด รวมไปถึงการส่งข้อความทวงหนี้ หรือข่มขู่ในรูปแบบต่างๆ
พล.ต.อ.ปิยะกล่าวว่า ขณะนี้อายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 60 บัญชี พบยอดเงินหมุนเวียน ในบัญชีกว่า 200 ล้านบาท และสามารถสืบสวนจนทราบรายชื่อพนักงานทวงหนี้เวิร์คฟอร์มโฮม หมดทุกคนแล้ว อยู่ระหว่างขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป โดย ศปน.ตร. จะรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดที่เกี่ยวข้อง และติดตามผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตรวจสอบของกลางที่ตรวจยึดได้ และขยายผลดำเนินคดีกับนายทุนและผู้เกี่ยวข้องทุกราย ขอเตือนไปยังบุคคลบางกลุ่มที่ยังมีพฤติการณ์ที่ชอบเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน ประกอบกิจการหรือมีพฤติกรรมเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยโหด ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ คุกคามชาวบ้าน ให้หยุดการกระทำเสีย ตำรวจจะเอาจริงแบบถอนรากถอนโคน ดำเนินคดีทุกข้อหาความผิดอย่างเฉียบขาด และไม่ยอมให้มีการเอาเปรียบซ้ำเติมประชาชนเป็นอันขาด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage