อย.อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันในไทยแล้ว 'อนุทิน' ยืนยันไทยไม่ปิดกั้นการนำเข้าวัคซีนทุกชนิด เพื่อให้คนไทยมีทางเลือกในการรับวัคซีนมากขึ้น
...................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2564 นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย.ซึ่งรับผิดชอบการพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด ได้เปิดช่องทางพิเศษในการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน เพื่อให้สามารถอนุมัติทะเบียนได้อย่างรวดเร็วนั้น ล่าสุดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ของบริษัท แจนเซ่น-ซีแลก จำกัด ที่ภาคเอกชนมายื่นขอขึ้นทะเบียน ได้รับอนุมัติทะเบียนจาก อย. แล้ว ถือเป็นวัคซีนโควิดรายที่ 3 ที่ได้รับอนุมัติขึ้นทะเบียนจาก อย.
นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนของบริษัท บารัต ไบโอเทค เทคโนโลยี ประเทศอินเดีย นำเข้าโดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารแบบต่อเนื่อง หรือ rolling submission ส่วนวัคซีนอื่น ๆ ได้แก่ วัคซีนโมเดอร์นา ของประเทศสหรัฐอเมริกา วัคซีนสปุตนิกไฟว์ ของประเทศรัสเซีย และวัคซีนซิโนฟาร์ม ของประเทศจีน ได้เข้าหารือกับ อย. เพื่อเตรียมการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด แล้ว
นพ.ไพศาล กล่าวอีกว่า ผู้รับอนุญาตนำเข้ายา หรือผู้รับอนุญาตที่เป็นโรงพยาบาลเอกชน หรือ ภาคเอกชนอื่น ที่สนใจยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด สามารถยื่นเอกสารเพื่อขอประเมินคุณภาพ ประสิทธิผล และความปลอดภัยของวัคซีนได้
"สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาพร้อมอำนวยความสะดวก โดยได้ระดมผู้เชี่ยวชาญจากภายในและภายนอกมาร่วมพิจารณา ถ้ายื่นเอกสารครบถ้วนตามที่กำหนดจะใช้เวลาในการประเมินและพิจารณาอนุญาตประมาณ 30 วัน เนื่องจากคำนึงถึงคุณภาพความปลอดภัยของวัคซีนตามมาตรฐานสากลเป็นสำคัญ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างปลอดภัย" นพ.ไพศาล กล่าว
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล ว่า การที่วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่ภาคเอกชนนำเข้ามา ได้รับการขึ้นทะเบียน แสดงให้เห็นว่าประเทศไทย ไม่ได้ปิดกั้นการลงทะเบียนและใช้วัคซีนในประเทศไทย
ขอเชิญชวนให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ มาขึ้นทะเบียน เพื่อนำมาใช้ในประเทศไทย ให้คนไทยได้มีทางเลือกในการรับวัคซีนมากขึ้น
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage