ม.ธรรมศาสตร์ พบป่วยโควิด 2 ราย เป็นบุคลากรคณะนิติศาสตร์ - นศ.คณะแพทยศาสตร์ พร้อมประกาศให้ผู้สัมผัสเสี่ยงกักตัว 14 วัน โดยไม่ถือวันลา
………………………………..
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2564 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกประกาศมาตรการและคำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคโควิด ฉบับที่ 20 หลังพบบุคลากรคณะนิติศาสตร์ 1 ราย และนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ 1 ราย ติดโควิด
โดยระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์ภายในมหาวิทยาลัย พบว่ามีบุคคลากรและนักศึกษา รวม 2 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด และได้เข้ารับการรักษาตัวทันทีที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 13 และ 14 ก.พ.2564 ตามลำดับ มหาวิทยาลัยได้ประสานกับโรงพยาบาลที่บุคลากรและนักศึกษาดังกล่าวเข้ารับการรักษาเพื่อยืนยันผลตรวจและขอให้มีการปฏิบัติการรักษาตามมาตรฐานการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด โดยมหาวิทยาลัยพร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับบุคลากรและนักศึกษาดังกล่าว ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยขณะนี้ผลการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นลบจำนวน 55 ราย ส่วนอีก 5 ราย อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ จากสถานการณ์ข้างต้นเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโควิดภายในมหาวิทยาลัย จึงออกมาตรการ ดังนี้
1. ให้คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยทำการสอบสวนวงจรการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งเป็นผู้อยู่ในสถานที่เดียวกับบุคลากรและนักศึกษาดังกล่าวในช่วงระยะเวลา 14 วัน ก่อนวันที่ 13 ก.พ.2564 หยุดกักตัวและเฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันนับจากวันที่ 13 ก.พ.2564 โดยไม่ถือวันลา
2. ให้คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาที่มีอาการอยู่ในข่ายต้องสงสัยการติดโควิด จากการสัมผัสกับบุคลากรและนักศึกษาดังกล่าว โปรดติดต่อสอบถามหรือแจ้งข้อมูลที่ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ กองกิจการนักศึกษา ชั้น 1 อาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โทร. 02-696-6600-2 เพื่อรับคำแนะนำต่อไป
3. ให้หัวหน้าส่วนงานและรองอธิการบดีที่ทำหน้าที่กำกับดูแลควบคุมให้มีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก Thammasat TODAY ระบุแจ้งเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางใกล้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ หลังพบนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ติดโควิด และมีคุณหมอส่งข้อความระบุว่าขณะนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์มีคนไข้ที่มีความเสี่ยงติดโควิดสูงเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage