พระนครศรีอยุธยา สั่งมาตรการเร่งด่วนฉบับ18 สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง คัดกรองไข้สถานบริการ ขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมไม่เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว โรงเรียน-สนามประลองไก่ ปฏิบัติตามมาตรการราชการกำหนด
..................................
คําสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ที่ 4073 / 2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) (ฉบับที่ 18)
ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และได้มีประกาศลงวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ให้ขยายระยะเวลา การบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ 8 จนถึงวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2504 นั้น
ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMD 19) ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีการระบาดใหม่ไปหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วย เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อเหตุการณ์ และครอบคลุมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 22 (1) (2) และมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อ 7 (1) ของข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 27/2563 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 จึงกําหนดมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์ จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนี้
ข้อ 1 ดํารงการปฏิบัติตามคําสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 1896/2563 ลงวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 (ฉบับที่ 11) และคําสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 1779/2563 ลงวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2563 (ฉบับที่ 14) โดยให้ประชาชนทุกคนภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สวมหน้ากาก อนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน และขณะอยู่นอกเคหสถาน หรือต้องติดต่อกับบุคคลอื่น
ข้อ 2 การจัดกิจกรรมทางศาสนาให้ถือปฏิบัติตามมติมหาเถรสมาคม หรือประกาศจุฬาราชมนตรี หรือแนวทางปฏิบัติเพื่อการเข้าร่วมพิธีกรรมของคริสต์ศาสนิกชน โดยเน้นย้ําให้ผู้ดูแลศาสนสถานแนะนํา ศาสนิกชนที่มาปฏิบัติศาสนกิจ ให้สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ให้เว้นระยะห่างทางสังคม และหลีกเลี่ยง การสัมผัสพื้นผิวหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดร่วมกับบุคคลอื่น
- สําหรับสถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าว ให้ขอความร่วมมือแรงงานต่างด้าวหลีกเลี่ยง การเข้าไปปฏิบัติศาสนกิจในศาสนสถานเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ข้อ 3 งานหรือกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจํานวนมากหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย เช่น งานเทศกาลปีใหม่ กิจกรรมวันเด็ก กิจกรรมกีฬา กิจกรรมวิ่งหรือปั่นจักรยาน งานเทศกาลตามประเพณี งานที่มีมหรสพหรือการแสดง ให้ดําเนินการตามมาตรการ ดังนี้
(1) จัดให้มีจุดคัดกรองผู้เข้าร่วมงานหรือกิจกรรม ก่อนเข้าพื้นที่ทุกครั้ง กรณีพบผู้มี อุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ แนะนําให้งดเว้นการเข้าร่วมกิจกรรมและไปพบแพทย์ทันที
(2) จัดให้มีการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ หรือวิธีการอื่น
(3) กําหนดจุดหรือเส้นทางเข้า – ออก อย่างชัดเจน
(4) ให้ผู้จัด เจ้าหน้าที่ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
(5) จัดให้มีจุดบริการอ่างล้างมือด้วยน้ําสะอาดและสบู่เหลว หรือเจลแอลกอฮอล์ สําหรับทําความสะอาด
(6) จํากัดจํานวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1 คนต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
(7) ให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1 - 2 เมตร
(8) จัดให้มีพื้นที่รอเข้างานและพื้นที่รอคิว และให้นั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร โดยให้ผู้จัดหรือเจ้าของสถานที่จัดทําสัญลักษณ์อย่างชัดเจน และจัดระเบียบต่างๆ ก่อนเข้าและออกจากสถานที่
(9) สถานที่จัดกิจกรรมต้องมีพื้นที่โล่งและไม่แออัด จัดให้มีการระบายอากาศ ภายในอาคารที่ดี รวมถึงห้องสุขาหรือรถสุขาที่สะอาดและเพียงพอต่อการให้บริการ
ข้อ 4 หากการจัดงาน/กิจกรรมตามข้อ 3 มีผู้เข้าร่วมตั้งแต่ 300 คนขึ้นไป นอกจาก ต้องดําเนินการตามมาตรการตามข้อ 3 (1)-(9) แล้ว ก่อนการจัดงาน/กิจกรรม ผู้จัดงาน/กิจกรรมจะต้องเสนอ หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่ออําเภอพิจารณา ดังนี้
(1) แผนการจัดงาน/กิจกรรม โดยระบุวัน เวลา สถานที่ ลักษณะงาน/กิจกรรม
(2) แผนควบคุมโรค
(3) หนังสือยินยอมให้หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่ออําเภอ เข้าตรวจการดําเนินการ ในช่วงการจัดงานตามมาตรการที่ทางราชการกําหนด
ข้อ 5 การจัดกิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานที่ของหน่วยงาน การเดินทางโดยยานพาหนะ ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่กรมการขนส่งทางบกกําหนด ส่วนการจัดกิจกรรมในสถานที่ หลังการเดินทางให้ปฏิบัติตามแนวทางในข้อ 3
ข้อ 6 ให้ตลาด ตลาดนัด ตลาดที่มิได้เปิดให้มีการค้าขายเป็นประจําทุกวัน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีมาตรการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ตามที่ทางราชการกําหนด ดังนี้
(1) ให้มีการควบคุมทางเข้าออก และมีมาตรการคัดกรองไข้
(2) เข้มงวดในการกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะ มาตรการควบคุม ด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงาน หรือมาตรการอื่นตามความเหมาะสม
(3) ไม่อนุญาตการให้บริการเครื่องเล่นสําหรับเด็ก
(4) ทําความสะอาดพื้น/พื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ รวมถึง กําจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
(5) ให้ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเสมอ
(6) ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ หรือน้ํายาฆ่าเชื้อโรค
(7) ให้เว้นระยะห่างของแผง หรือระยะนั่ง หรือยืน หรือระยะห่างในการเลือกสินค้า และการชําระราคา ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร
(8) ให้ควบคุมจํานวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด หรือลดเวลาการให้บริการ และหลีกเลี่ยง การติดต่อสัมผัสระหว่างกัน
สําหรับร้านค้าหรือแผงค้าในตลาด ตลาดนัด ตลาดที่มิได้เปิดให้มีการค้าขายเป็นประจําทุกวัน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่จําหน่ายอาหารทะเลหรือกุ้ง ให้หน่วยปฏิบัติการควบคุม โรคติดต่ออําเภอสุ่มตรวจเชื้อโควิด-19 พร้อมแนะนําให้เจ้าของร้านปฏิบัติตามมาตรการข้อ 6 (4)-(8) อย่างเคร่งครัด และให้เจ้าของสถานที่หรือผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ อํานวยความสะดวกในการตรวจด้วย
ข้อ 7 ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษา ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่ทางราชการกําหนด อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยหรือข้อกังวลใจเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ให้ปรึกษาสํานักงาน สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สํานักงานสาธารณสุขอําเภอ โรงพยาบาลในพื้นที่หรือสายด่วนโควิด โทร. 08 1780 6767 ก่อนมีคําสั่งปิดโรงเรียนหรือสถานศึกษา
ข้อ 8 ให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดําเนินการต่อเนื่องตามแผนตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 แรงงานต่างด้าว ในโรงงาน สถานประกอบการ และสถานที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว
สําหรับโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการทุกแห่งที่มีแรงงานต่างด้าว ขอความร่วมมือ ไม่ให้เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว โดยจะต้องดําเนินการให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงแรงงาน ลงวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง ขอความร่วมมือห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ข้อ 9 ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า เน้นย้ําประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริการและผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองไข้ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ลงทะเบียนโดยแอพพลิเคชั่นไทยชนะหรือวิธีการอื่น เว้นระยะห่าง ทางสังคม งดพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น การเต้นที่ใกล้ชิดสัมผัสกัน การตะโกนร้องเพลง เป็นต้น รวมถึงกวดขันให้ทําความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ
ข้อ 10 สนามมวย สนามชนไก่ สนามประลองไก่หรือสถานที่ซ้อมประลองไก่ ให้ปฏิบัติตาม มาตรการที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามอาจถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการ ชั่วคราวได้
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2554 และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2544 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา