แพร่ประกาศต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินถึง 31 ก.ค. ผ่อนปรนเฟส 5 เปิดโรงเรียนและกิจกรรมกลุ่มเสี่ยงผับ บาร์ อาบอบนวด และร้านเกม แต่ยังไม่อนุญาตสนามชนวัว ชนไก่ ปลากัด พร้อมออกข้อกำหนด 11 ข้อ การอนุญาตบุคคลเข้าราชอาณาจักรไทย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ราชกิจจานุเบกษา แพร่ประกาศ เรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่3) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. – 31 ก.ค.2563
สาระสำคัญตอนหนึ่ง ระบุว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิดทั่วโลกยังมีความรุนแรง แม้ในประเทศที่ควบคุมการระบาดได้ดีจนมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอัตราต่ำหรือคงที่ เมื่อได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ปรากฏว่ามีการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ดังปรากฏข้อเท็จจริงว่าในสัปดาห์ที่สี่ของเดือนมิถุนายนมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโรค
จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง แต่การขยายระยะเวลาในคราวนี้มิได้มุ่งที่จะห้ามหรือจำกัดการดำเนินกิจกรรมหรือกิจการใดๆ แต่มุ่งประโยชน์เพื่อบูรณาการความรับผิดชอบและการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายนอกเหนือจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อให้การเฝ้าระวัง และการแก้ไขสถานการณ์เป็นไปโดยมีเอกภาพ มีประสิทธิภาพ รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ มุ่งรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยด้านสุขภาพและชีวิตประชาชนเป็นสำคัญ
รายละเอียด : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/153/T_0027.PDF
วันเดียวกันนี้ราชกิจจานุเบกษา แพร่ประกาศข้อกำหนดและข้อปฏิบัติเพิ่มเติมให้กับส่วนราชการ ดังนี้
1.การเปิดเรียนและรูปแบบการเรียนการสอนในโรงเรียน สถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัย โดยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต้องจัดให้มีความพร้อมและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นระหว่างการออกกำลังกาย , เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน และเว้นระยะห่างโต๊ะเรียนอย่างน้อย 1 เมตร และให้ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม กรณีห้องแอร์จำกัด 1 คนต่อพื้นที่ 4 ตารางเมตร หรือลดเวลาการทำกิจกรรมเท่าที่จำเป็น
2.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ สามารถเปิดได้ตามกำหนดเวลาทำการปกติ ไม่เกินเวลา 22.00 น.
ส่วนร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการตามข้อกำหนดเวลาทำการปกติของสถานที่นั้นๆ
3.สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ผ่อนผันให้เปิดดำเนินการได้ แต่ต้องปิด 24.00 น. และงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่นเดียวกับการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป เปิดให้บริการได้ถึง 24.00 น. แต่งดเว้นการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสถานที่ที่ให้บริการหลังเวลาดังกล่าว
4.ร้านเกมและร้านอินเทอร์เน็ต ให้เปิดดำเนินการได้ โดยจำกัดช่วงเวลาการให้บริการ
5.สถานประกอบกิจการอาบอบนวด โรงน้ำชา ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาเปิดทำการปกติที่กฎหมายกำหนด
สำหรับสนามชนโค สนามชนไก่ สนามกัดปลา หรือสนามการแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันยังไม่อนุญาตให้เปิดดำเนินการ
6.การขนส่งสาธารณะ ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ ไม่ให้แออัดและรวมกลุ่มกัน ทั้งนี้รถโดยสารประจำทาง รถปรับอากาศ รถไฟ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร อาจพิจารณาจัดบริการให้ผู้โดยสารนั่งได้ทุกที่นั่ง และมีผู้โดยสารยืนโดยไม่หันหน้าเข้าหากัน ทั้งนี้ให้มีจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 70% ของความจุตามมาตรฐานของพาหนะ
รายละเอียด :
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/153/T_0031.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/153/T_0037.PDF
นอกจากนี้ยังได้แก้ไขข้อกำหนด การอนุญาตบุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ดังนี้
1.ผู้มีสัญชาติไทย
2.ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้ารับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
3.บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศ ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
4.ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจให้กลับออกไปโดยเร็ว
5.ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะซึ่งจำเป็นต้องเดินเข้ามาตามภารกิจและมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
6.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
7.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
8.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานหรือไดรับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักร ตลอดจนคู่สมรสหรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
9.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาในประเทศที่ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครอง ยกเว้นนักเรียนหรือนักศึกษาของโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือของสถานศึกษาอื่นของเอกชนที่มีลักษณะคล้ายกัน
10.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศ กำหนดให้มีผู้ติดตามได้ 3 คน แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อรักษาโควิด ทั้งนี้ต้องมีระยะเวลาอยู่ในราชอาณาจักรไม่น้อยกว่า 14 วัน
11.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษ (Special arrangement) กับต่างประเทศ โดยให้กำหนดโควตาจำนวนผู้เดินทางเข้ามาจากประเทศที่มีข้อตกลงพิเศษ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศขอความเห็นชอบจาก ศบค.
ส่วนมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามา ให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา และหลักเกณฑ์ที่ราชการกำหนดไว้โดยเคร่งครัด และให้กำหนดเงื่อนไขการแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต ณ สถานที่และระยะเวลาที่ทางราชการกำหนด หรือปฏิบัติตามระบบตรวจสอบการเดินทางในราชอาณาจักรหรือการใช้แอปพลิเคชันติดตามตัว เพื่อให้มารับการตรวจหาเชื้อเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการติดเชื้อก็ได้
รายละเอียด :
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/153/T_0035.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/153/T_0038.PDF
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/