“ศรีสุวรรณ”จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบเอาผิดอธิการบดี ม.การกีฬาแห่งชาติ ใช้อำนาจเกินตำแหน่งรักษาการ ขอเครื่องราชฯ ให้ ผอ.โรงเรียนกีฬา ให้ผู้บริหาร-พนักงานยกคณะไปต่างประเทศ อ้างประเมินผลนักเรียนทุน 6 วันดูงานจริงแค่ครึ่งวัน ที่เหลือเป็นโปรแกรมเที่ยว แถมเหน็บสามีผู้บริหารไปด้วย
เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่านายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้รับการร้องเรียนจากบุคลากภายในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติว่า หลังจากที่สถาบันการพละศึกษายกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ เมื่อ 22 พ.ค.2562 แล้ว จะต้องมีการสรรหาอธิการบดีและคณะผู้บริหารชุดใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนตามที่กฎหมายกำหนด โดยคณะผู้บริหารชุดเดิม จะทำหน้าที่รักษาการไปจนกว่าจะมีคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่ โดยการปฏิบัติหน้าที่รักษาการพึงต้องกระทำการใด ๆ ตามที่กรอบกฎหมายให้อำนาจเท่าที่ทำได้เท่านั้น
แต่ปรากฏว่ารักษาการอธิการบดี ม.การกีฬาแห่งชาติ กลับกระทำการและใช้อำนาจเสมือนหนึ่งว่าตนเป็นอธิการบดีแล้ว โดยใช้ตำแหน่งอธิการบดีโดยไม่มีคำว่ารักษาการนำหน้าเลย นอกจากนั้นยังมีการใช้อำนาจในการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ ให้กับผู้ที่มาทำหน้าที่รักษาการโรงเรียนกีฬาต่าง ๆ ซึ่งขัดต่อหนังสือสั่งการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยชัดเจน
นอกจากนั้นยังได้มีคำสั่งให้คณะผู้บริหารและพนักงานเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจำนวนมากเดินทางไปติดตามประเมินผลนักเรียนทุนที่มีความสามารถด้านกีฬาไม่กี่คน ณ ประเทศออสเตรเลียในระหว่างวันที่ 12-17 ก.ค.2562 ซึ่งพบว่าคณะที่เดินทางไปดังกล่าวมีโปรแกรมการดูงานจริงเพียงครึ่งวันเท่านั้นและไม่มีโปรแกรมการไปติดตามและประเมินผลการเรียนของนักเรียนทุนเลย นอกจากเป็นโปรแกรมการทัวร์เที่ยวเล่น กิน ชอปปิ้ง ถ่ายรูปเซลฟี้มาอวดกัน และผู้ที่ไปร่วมดูงานก็ไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจแต่อย่างใด เช่น หัวหน้าสำนักงานรองอธิการบดี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิเทศสัมพันธ์ เป็นต้น
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้มีการอนุมัติให้คณะผู้บริหารและบุคคลภายนอกอีก 24 คนได้เดินทางไปดูงานด้านการศึกษาและกีฬากับประเทศในกลุ่มทวีปยุโรป อาทิ รัสเชีย นอร์เวย์ และเดนมาร์ก โดยใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชนไปเป็นจำนวนมาก โดยมีข้อพิรุธว่า ให้มีการนำสามีของผู้บริหารสถาบันเดินทางไปร่วมดูงานด้วย ทั้ง ๆ ที่มิได้เป็นกรรมการหรือมีมีตำแหน่งหรือส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันฯ แต่อย่างใด
กรณีที่เกิดขึ้น จึงเป็นการใช้อำนาจที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมหรือไม่ จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตาม ม. 234(2) ของรัฐธรรมนูญ 2560 ประกอบ พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนกล่าวโทษอธิการบดี ม.การกีฬาแห่งชาติ ต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยตามข้อพิรุธดังกล่าวข้างต้น โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค.2562 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ นนทบุรี นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด