สธ.สรุปผลงานปี 2567 ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่-ปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV)-เสริมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเต็มระบบ ด้าน สปสช.เพิ่ม 6 ฟีเจอร์ในแอปฯ 'ทางรัฐ' เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในยุคนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่การกระทรวงสาธารณสุขยึดนโยบายการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยอนาคตของประชาชนอย่างดีที่สุดเป็นสำคัญ เพราะถือว่า สุขภาพที่ดี คือของขวัญและรางวัลที่มีค่าที่สุด ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ กระทรวงสาธารณสุขมอบของขวัญให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อการมีสุขภาพที่ดี
โดยเดือนธันวาคม 2567 – มกราคม 2568 ให้บริการฉีดวัคซีนแก่ผู้มีอายุ 11 – 20 ปี ป้องกันการตัดเชื้อไวรัสเอชพีวีป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) 1 ล้านโดส
จากสถิติผลงานฉีดวัคซีน ล่าสุดปี 2567 ฉีดวัคซีนจำนวน 2,380,519 ราย สามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสเอชพีวี ลดการเกิดมะเร็งปากมดลูกมากกว่าร้อยละ 90
อีกทั้งช่วงเดือนธันวาคม 2567 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สามารถเชื่อมโยงสุขภาพแบบไร้รอยต่อ สร้าง Smart Hospital ได้ถึง 902 แห่ง ขยายโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวจาก 46 จังหวัดสู่การครอบคลุมทั้งประเทศในวันที่ 1 มกราคม 2568 นี้
น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า ตามมาด้วยของขวัญวันเด็ก วันที่ 7 มกราคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานแจกหนังสือนิทานส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กไทย 40,000 คน จากนั้นช่วงสงกรานต์ เดือนเมษายน จะมอบของขวัญในวันผู้สูงอายุ ตั้งใช้ว่า “คนไทยสายตาดี” ทำการผ่าตัดต้อกระจก 73,000 ดวงตาให้กับผู้สูงอายุ รวมถึงการ ปลูกถ่ายกระจกตา 1,500 ดวงตา และคัดกรองสายตา โดยทีม 3 หมอ อีกทั้งมอบ “รอยยิ้มใหม่ผู้สูงวัย ปี 2568” ให้ผู้สูงอายุและก่อนวันสูงอายุได้รับการใส่ฟันเทียมทั้งปาก หรือเกือบทั้งปาก จำนวน 45,000 ราย เพื่อคนไทย
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา สรุปผลงานสำคัญ ของกระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว การบริการวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV), การบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดและ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเต็มระบบ และ ในปี 2568 กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งรัดนโยบาย 7 ประการเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน ประกอบด้วย
-
ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ
-
เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตและบำบัดรักษายาเสพติดเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วยได้ถึง 198,870 คน คืนคนดีสู่สังคมได้ 102,392 คน
-
คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ
-
สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน
-
จัดระบบบริการสุขภาพเพื่อกลุ่มเปราะบางและพื้นที่พิเศษ
-
เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical & Wellness Hub ได้ 2,022 แห่ง ยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นสินค้าพรีเมี่ยม 241 รายการ สร้างงานสร้างอาชีพนวดไทย 1,910 ราย
-
บริหารจัดการทรัพยากรสาธารณสุข
“นี่คือสิ่งที่นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ปี 2568 จะเป็นการเริ่มศักราชใหม่ของสุขภาพประชาชนที่ดี ประชาชนคนไทยต้องลดโรคร้ายและเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ถ้วนหน้า และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มุ่งมั่นเดินหน้าขยายโอกาสและสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับประชาชนทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรณรงค์ลดจำนวนการเจ็บป่วยของประชาชนในโรคไม่ติดต่อ (NCDs) คนไทยต้องสุขภาพดี คือ ของขวัญที่สำคัญของประชาชน” น.ส.ตรีชฎา กล่าว
สปสช.จับมือแอพฯ ‘ทางรัฐ’ รองรับ 30 บาทรักษาทุกที่
ในวันเดียวกันนี้ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวในงานแถลงข่าวความร่วมมือให้บริการ 30 บาทรักษาทุกที่บนแอพพลิเคชั่น “ทางรัฐ”ว่า รัฐบาลมีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างสะดวกรวดเร็วและใกล้บ้าน ซึ่งในวันที่ 1 มกราคม 2568 จะมีการขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ จากข้อมูลการรับบริการในปี 2567 มีประชาชนเข้ารับบริการเป็นผู้ป่วยนอก 176.53 ล้านคน และมีบริการผู้ป่วยในอีก 6.2 ล้านครั้ง และยังไม่รวมบริการอื่นๆ สำหรับประชากร 46.9 ล้านคน
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ความสำเร็จในการคุ้มครองสิทธิสุขภาพให้กับประชาชนนี้ไม่สามารถดำเนินการได้โดย สปสช. เพียงหน่วยเดียว ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน เพื่อให้ระบบมีการพัฒนาและตอบโจทย์ของประชาชนได้ วันนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ สปสช. และ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ในการเชื่อมต่อระบบบัตรทองกับแอพพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ที่เป็น Super App ของรัฐบาล เพื่อเชื่อมโยงบริการจากหน่วยงานต่างๆ ให้ประชาชนติดต่อราชการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ใน แอพพ์เดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สปสช. เพื่อให้บริการกับผู้ใช้สิทธิบัตรทอง เช่น การเชื่อมโยงสิทธิการรักษา การตรวจสอบข้อมูลรับบริการ ข้อมูลสุขภาพต่างๆ ใช้เป็นเครื่องมือยืนยันการใช้สิทธิแทนบัตรประชาชน การค้นหาหน่วยบริการบนแอพพ์ทางรัฐ นอกจากนั้น ยังสามารถดูข้อมูลส่วนสำคัญของการให้และรับบริการของประชาชนได้จากทางรัฐ
“การเชื่อมโยงมีความปลอดภัยที่ดูแลโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล สามารถสร้างความวางใจให้กับประชาชนและหน่วยบริการต่างๆ ได้ ทั้งนี้ การยืนยันตัวตนผู้ใช้สิทธิบัตรทอง ปัจจุบันมีหลายช่องทางอยู่แล้ว เช่น แอพพ์ของ สปสช. บัญชีไลน์ทางการของ สปสช. @nhso หรือแอพพ์ เป๋าตัง ซึ่งวันนี้เป็นการดำเนินการอีกขั้นหนึ่งผ่านแอพพ์ ทางรัฐ เพื่อเพิ่มช่องทางให้มากขึ้น” เลขาธิการสปสช.กล่าว
ด้าน นางโอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า สำหรับ “ทางรัฐ” ได้ร่วมมือกับสปสช. โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ 6 บริการ ได้แก่
-
การตรวจสอบสิทธิในการใช้บริการ 30 บาทรักษาทุกที่
-
ค้นหาหน่วยบริการใกล้บ้าน
-
การยืนยันตัวตนผ่านแอพพ์ทางรัฐ ด้วยการสแกน QR code ที่หน่วยบริการ
-
การดูประวัติสุขภาพ ประวัติการรักษาพยาบาลที่ผ่านมา
-
การยืนยันการใช้สิทธิ หรือเรียกว่าการปิดสิทธิใช้บริการ เพื่อดูว่ามีค่าใช้จ่ายใดเพิ่มเติมจากการรับบริการหรือไม่
-
การเปลี่ยนหน่วยบริการในสิทธิบัตรทอง