เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัว ‘ดาว’ ปิณฑิรา การิวัลย์ ‘พี่สาวภรรยาทนายตั้ม’ ผู้ต้องหา คดีฟอกเงิน 39 ล้านบาท ฝากขังศาลอาญา-คัดค้านประกันตัว หวั่น ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน-มูลค่าความเสียหายสูง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถก ‘คดีแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์’ ล็อตสอง ส่วน ‘เล็ก’ คนรถทนายตั้ม ยังเป็นพยาน – ฝ่ายสืบสวนขยายผลถึงใครต่อ ยังไม่ได้ข้อสรุป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เดินทางเข้าประชุมติดตามคดีน.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ในล็อต 2 นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม
พล.ต.ท.อัคราเดช เปิดเผยก่อนเข้าประชุม ว่า วันนี้ตนมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ในล็อต 2 เนื่องจากวันที่ 5 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่วนหนึ่งส่งไปให้อัยการและสั่งฟ้องไปแล้ว แต่ในช่วงนี้ก็ยังมีผู้เสียหายหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อนและยังประสงค์ร้องทุกข์กล่าวโทษอยู่
พล.ต.ท.อัคราเดชกล่าวว่า ส่วนคดีทนายตั้มจะขยายผลถึงใครเป็นขั้นตอนการทำงานทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน โดยการดำเนินการก็จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และรวบรวมพยานหลักฐาน โดยที่ผ่านมาฝ่ายสืบสวนก็ได้รายงานความคืบหน้าอยู่หลายส่วน อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารณาว่าจะนำเข้าในสำนวนหรือไม่ ต้องดูว่าเป็นประโยชน์หรือสามารถเป็นพยานหลักฐานยืนยันได้หรือไม่
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า กรณีนายเล็กคนขับรถของทนายตั้มในชั้นนี้ยังถือว่าเป็นพยานอยู่ แต่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนที่วางแผนในการสอบสวนเอาไว้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการสอบปากคำของน.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยาทนายตั้ม พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ตนทราบว่าน.ส.ปิณฑิราให้ความร่วมมือน้อยมาก ให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ทางตำรวจมีพยานหลักฐานมากเพียงพออยู่แล้ว เพียงแค่สอบถามว่าจะรับสารภาพหรือไม่เท่านั้น เป็นการให้โอกาสพิสูจน์ความผิด
“ส่วนน.ส.ปิณฑิรา จะมีความเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็อยู่ระหว่างขยายผล ว่าจะมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกหมายจับใครเพิ่มเติม”พล.ต.ท.อัคราเดช
รายงานระบุว่า ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ต สีดำ ทะเบียน งษ 99 ซึ่งเป็นรถที่ก่อนหน้านี้น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือ ดาว พี่สาวภรรยาทนายตั้มเคยนั่งมาให้ปากคำ โดยรถคันดังกล่าวถูกขับวนเข้ามาที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม โดยอ้อมด้านหลังนักข่าวไปทางด้านหลังตึก ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าววิ่งตามไปที่ด้านหลังอาคาร ไม่ทันเห็นว่ามีใครลงจากรถหรือไม่ เห็นเพียงรถคันดังกล่าวขับวนออกมาทางด้านหน้าอีกฝั่ง ก่อนจะขับออกไปทันที
@ คุมตัว ‘พี่สาวเมียตั้ม’ ฝากขังศาลอาญา ตำรวจค้านประกัน
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 13.16 น. วันที่ 27 พ.ย.2567 ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวน.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงินในคดีเงิน 39 ล้านบาทของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ขึ้นรถตู้ 1 คันของบก.ป. เพื่อไปทำการฝากขังศาลอาญารัชดา ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
รายงานข่าวระบุว่า โดยระหว่างคุมตัว น.ส.ปิณฑิรา สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ สวมหมวก แว่นตา พร้อมใส่หน้ากากอนามัย ปิดบังใบหน้า ซึ่งตัวน.ส.ปิณฑิรา พยายามก้มหน้าและไม่ได้กล่าวอะไร แม้สื่อมวลชนพยายามสอบถามในทุกประเด็นเบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง