‘บิ๊กเต่า’ เผยสัปดาห์หน้าเตรียมสรุปสำนวนดำเนินคดี ‘นักร้อง’ เรียกรับผลประโยชน์บอส ‘ดิไอคอนฯ’ ปัดโอนคดีทนายตั้มมา บก.ป.เป็นการกลั่นแกล้ง ชี้ให้ข้อเท็จจริงไป ไม่มีเอาคืน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่ห้องประชุม ชั้น 16 กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียก พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผบก.ป. และคณะทำงานสืบสวนสอบสวน ใช้เวลาประชุม 2 ชั่วโมง
@เตรียมดำเนินคดี ‘นักร้อง’ สัปดาห์หน้า
หลังเสร็จสิ้นการประขุม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียงบุคคลรับผลประโยชน์กับผู้ต้องหาในคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป โดยคณะทำงานได้ตรวจสอบคลิปเสียง ซึ่งมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคล ขณะนี้เหลือสอบปากคำพยานอีกไม่กี่ปากน่าจะเพียงพอที่จะสรุปสำนวนเพื่อดำเนินคดีกับนักร้องเรียนบางคนได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนจะเป็นหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา หรือหมายจับต้องพิจารณากันอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ในส่วนคลิปเสียงรีดทรัพย์จะเป็นในส่วนของบก.ป. ส่วนคดีพยานเท็จจะเป็นของ บก.ปอท.
@บอสสีกากี เป็นเรื่องของจเรตำรวจ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า วันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) ช่วงบ่าย จะเรียกตำรวจอดีตสังกัด บก.ปคบ. ซึ่งเป็นอดีตสามีนักร้องเรียนหญิงรายนี้ มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย ส่วนกรณีของนายตำรวจยศพันตำรวจเอก หรือบอสตำรวจ ที่ขึ้นไปพูดบนเวที ดิ ไอคอน กรุ๊ป ตั้งแต่ปี 61 นั้น จเรตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบ เนื่องจากมีความสนิทส่วนตัว ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายตำรวจคนดังกล่าวแต่อย่างใด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อด้วยว่า สำหรับเรื่องเส้นเงินของบอสดาราทั้ง 3 รายที่มีการเปิดเผยในสื่อนั้น ตนไม่ทราบ เป็นในส่วนของบก.ปคบ. ที่เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ สำหรับกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไปที่เรือนจำพร้อมตำรวจนั้น คาดว่านายอัจฉริยะได้ประสานมาทางตำรวจ ว่าได้รับการติดต่อจากญาติของนายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือโค้ชแล็ป หนึ่งในผู้ต้องหาว่าต้องการที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปด้วยก็ไม่ได้รับข้อมูลอะไร
@สายไหมต้องรอด รอคนมาแจ้งความ / ปัดเอี่ยวโอนคดีทนายตั้ม
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อถึงกรณีที่จะสอบเอาผิดกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รวมถึงพยานที่เข้ามาให้ข้อมูลเท็จนั้น เบื้องต้นยังไม่มีมีการเข้าแจ้งความ แต่มีการประสานว่าจะเข้าดำเนินการหลังจากคดีรีดทรัพย์เสร็จสิ้นแล้ว
ผู้สื่อถามถึงกรณีจะมีการโอนคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นผู้ถูกกล่าวหามาให้บก.ป. นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.แล้วว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายต้องการให้คดีมาที่นี่ ไม่ใช่เราไปลากคดีมา เป็นความประสงค์ของผู้เสียหาย ยืนยันไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับทนายตั้ม และไม่ขอให้ความเห็นในกรณีนั้
“ในยุทธจักรยุทธภพทนายตั้มผ่านมาแล้วหลายเวที ก็ให้ข้อเท็จจริงกันไป ผมทำหน้าที่ของผมไม่มีเรื่องที่จะต้องเอาคืน มีแต่ผู้เสียหายที่จะขอเอาคืนจากทนายทนายตั้มไม่ใช่ตน” รองผบช.ก.กล่าว
@ทนายบอส หอบคลิปเสียงมาให้เพิ่ม - ไม่รู้ ‘อัจฉริยะ’ พบบอสในเรือนจำได้ไง
วันเดียวกัน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” เดินทางนำหลักฐานคลิปเสียงให้เพิ่มเติม เพื่อเป็นหลักฐานเอาผิดกับนักร้องเรียนหญิง ก. ที่เรียกรับผลประโยชน์จากบอสพอล มูลค่า 10 ล้านบาทเพิ่มเติม โดยเป็นคลิปเสียงความยาวประมาณ 5 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรื่องรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยมีการฝากเอกสารให้เจ้าหน้าที่ของเรือนจำ นำไปให้กับบอสแล็ปเซ็น ทราบว่าเป็นเอกสารมอบอํานาจให้นายอัจฉริยะเป็นตัวแทนในการต่อสู้คดีเท่านั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตามหลักขั้นตอนของกฎหมายแล้วสามารถทำได้หรือไม่ ตนไม่ทราบว่าสามารถทำแบบนั้นได้หรือไม่ แต่ในส่วนของตนที่เป็นทนายความนั้นจะสามารถเข้าไปในเรือนจำฯได้ก็ต่อเมื่อลูกความร้องขอ ซึ่งตนไม่รู้ว่านายอัจฉริยะมีอำนาจอย่างไร จึงสามารถเข้าไปได้ อีกทั้งยังนำเอกสารมอบอำนาจไปให้ผู้ต้องหาเซ็น มองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะยังไม่เคยมีการพูดคุยกันถึงเรื่องแต่ตั้งนายอัจฉริยะเป็นทนายสู้คดีมาก่อนอีกด้วย
ส่วนเรื่องที่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร์ ผบ.ตร.ให้โอนคดี นายษิทธา เบี้ยบังเกิด ถูกแจ้งความดำเนินคดีโกงเงิน 71 ล้านบาท เหตุเกิดที่สภ.ปากช่อง มาให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทำนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.กล่าวว่า ไม่ได้หนักใจเรื่องนี้จะผิดหรือถูกว่ากันไปตามพยานหลักฐาน หากนายษิทธา คิดไม่ได้ทำผิดก็เข้ามาขี้แจงให้ข้อมูล ตำรวจพร้อมจะให้ความเป็นธรรม แต่ขณะนี้กำลังรอเรื่องโอนคดีมาอยู่ ถ้าโอนมาแล้วพร้อมทำได้ทันที
ที่มาภาพปก: จส.100