หญิงวัย 46 ปี ร้องอัยการภาค 6 ขอความเป็นธรรมให้ทบทวนคำสั่งของอัยการจังหวัดแม่สอด หลังบุตรชายเสียชีวิตในคดีจราจรแล้วมีคำสั่งไม่ฟ้อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 ก.ย. 2567 ที่สำนักงานอัยการภาค 6 .นางวันดี แสนใจ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 7 ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ยื่นเอกสารขอความเป็นธรรม อธืบดีอัยการภาค 6 กรณีบุตรชายเสียชีวิตในคดีจราจร โดยมีนายเกรียงศักดิ์ นวลศรี นิติกร สำนักงานอัยการภาค 6 เป็นผู้รับเรื่องร้องทุกข์
คำร้องนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 00.33 น. นายพิริยะกร แสนใจ ซึ่งเป็นบุตรชายได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำเขียว หมายเลขทะเบียน กลฉ 778 ตาก ชนท้ายรถยนต์พ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ อีซุสุ สีขาว หัวลากหมายเลขทะเบียน 70-6827 ตาก ส่วนพ่วงทะเบียน 70-6828 ตาก ของห้างหุ้นส่วนจำกัด หวานใจทรานสปอร์ต โดยมี นายมีศีล ยอดบุษดี เป็นผู้ขับขี่ เหตุเกิดบริเวณ หน้าศูนย์ปฏิบัติการทางหลวง ถนนตาก-แม่สอด (ขาเข้าแม่สอด) เป็นเหตุให้บุตรชายของผู้ร้องเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มี ร.ต.ท.ณัฐวัฒน์ โพธิ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรแม่สอด เป็นพนักงานสอบสวน รับไว้เป็นคดีจราจรที่ 49/2566
จากผลการสอบสวนฯ พนักงานสอบสวนฯ ได้ส่งสำนวน “สั่งฟ้อง” นายมีศีล ยอดบุษดี ผู้ขับขี่รถยนต์พ่วง ฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด และสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด ได้ส่งสำนวนคดีอาญามีความเห็น “สั่งไม่ฟ้อง” ไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อพิจารณา จากผลการพิจารณาของสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอดที่มีความเห็น “สั่งไม่ฟ้อง” คู่กรณี นายมีศีลฯ นั้น
ผู้ร้องใคร่ขอความเป็นธรรมในกระบวนการพิจารณาของสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด ที่ไม่สั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม ในกรณีที่มีข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ ให้ครบถ้วน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนเสียก่อน กลับสั่งไม่ฟ้องเลย จึงเห็นว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร และจากที่ผู้ร้องได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งว่าบุตรชายประสบอุบัติเหตุ ประกอบกับภาพถ่ายที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวค่อนข้างมืด แสงสว่างมาจากเสาไฟส่องสว่างกลางถนนเพียงอย่างเดียว ทำให้มีแสงสว่างไม่เพียงพอ
ช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีฝนตกทำให้ถนนลื่น ผู้ขับขี่จอดรถยนต์พ่วงในลักษณะกีดขวางการจราจร ไม่มีกรวยยางวางตั้งหรือสัญลักษณ์อื่นใดแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน และจอดรถในบริเวณที่ไม่ใช่จุดพักรถที่กรมทางหลวงกำหนด หลังจากเกิดเหตุได้รับเงินช่วยเหลืองานศพจากนายมีศีลฯ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2567 จำนวน 5,000 บาท และวันที่ 29 ตุลาคม 2567 จำนวน 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 25,000 บาท และไม่ได้รับการเยียวยาอื่นใดจากคู่กรณีอีก บุตรชายของผู้ร้องเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องทำงานหารายได้มาจุนเจือคนในครอบครัวและส่งเสียน้องสาวเรียน เนื่องจากพ่อแม่มีรายได้ต่ำ ฐานะยากจน มีภาระหนี้สินทั้งในและนอกระบบ รถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุก็ยังผ่อนชำระไม่หมด อีกทั้งยังเกิดความเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทำให้ครอบครัวของผู้ร้องได้รับความลำบากจากการสูญเสียบุตรชายในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้ร้องจึงใคร่ขอความเป็นธรรมจากท่านในการพิจารณาทบทวนคำสั่งของสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด และกระบวนการพิจารณาคดีในชั้นอื่นๆ เพื่อให้ครอบครัวได้รับการเยียวยาจากการเสียชีวิตของบุตรชายที่ยุติธรรมและเหมาะสมต่อไป ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง
โดยนายเกรียงไกร ศรี นิติกร สำนักงานอัยการภาค 6 กล่าวว่า ภายหลังทึ่อธิบดีอัยการภาค 6 รับเรื่องราวร้องทุกข์แล้ว จะส่งเรื่องให้อัยการจังหวัดแม่สอด ทบทวนความเห็นแล้วส่งกลับมาให้อธิบดีอัยการภาค 6 พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก๊ตาม คดีที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง จะต้องส่งสำสวนคดีให้ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 พิจารณาอีกด้วย