นครบาลรวบ 2 พี่น้อง เอส-อาร์ท มือผสมยาดองเถื่อน ทำผู้บริโภคเสียชีวิต 6 ราย เผยพฤติการณ์ หลังเกิดเหตุทั้งสองพากันหลบหนีไปกบดานในป่าพื้นที่ จ.อยุธยา เจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็ง ยังอ้าง “คิดสูตรเอง มนุษย์สามารถกินได้”
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 30 ส.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสุรชัย หรือ อาร์ท อินสาม อายุ 43 ปี และ นายสุรศักดิ์ หรือเอส อินสาม อายุ 46 ปี สองพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1169/2567 ลงวันที่ 28 ส.ค. 67
ข้อหา "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใดเพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขายสิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมตัวได้ที่ ม.10 ต.บ่อตาโล่อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลาราว 23.00 น. ของวันที่ 29 สค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากกรณีเหตุสลด “คลัสเตอร์ยาดองมรณะ” ที่มีผู้ป่วยทยอยเสียชีวิตจากการดื่มยาดองที่เปิดขายที่ร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่มีนบุรี ล่าสุดเสียชีวิตไปแล้ว 6 ราย โดยผลจากการตรวจสอบในทางวิทยาศาสตร์ของกรมสรรพสามิต พบว่าในสุราที่นำมาใช้นั้น มีสาร “เมทานอล” และสารไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl alcohol: IPA) เจือปน จึงเร่งสืบสวนสอบสวนจนทราบ "มือผสมยาดอง” คือ สองพี่น้องเอส-อาร์ท โดยล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับทั้งสองในข้อหาหนัก หลังศาลออกหมายจับ พบว่าสองพี่น้องมือผสมไหวตัวหลบหนีออกจากพื้นที่ จ.กรุงเทพ ออกไปกบดานในพื้นที่ต่างจังหวัด จึงส่งชุดสืบนครบาลไล่ล่าไปจนถึงจ.พระนครศรีอยุธยา กว่าครึ่งค่อนวันที่ชุดสืบสวนงมหาคนร้ายในพื้นที่แต่โชคไม่เข้าข้าง เพราะแหล่งกบดานคนร้ายเป็นพื้นที่ชนบท และมีป่ารอบทิศ
กระทั่งฟ้ามือยิ่งยากต่อการค้นหา จนต้องมีการ “รวมพลัง” สนธิกำลังระหว่างชุดสืบนครบาล ชุดสืบสวนตำรวจภาค 1 และตำรวจพระนครศรีอยุธยา กว่า 50 ชีวิต ปูพรหมค้นหาในพื้นที่ กระทั่งโชคได้เข้าข้าง ชุดสืบสวนที่ได้พบกับชาวบ้านที่กำลังส่องหากบอยู่ริมทางได้ให้เบาะแสถึงแหล่งกบดานของสองพี่น้อง หลังทราบเบาะแสชุดสืบสวนไม่รอช้า บุกเข้าไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า ในชั้นจับกุมทั้งสองพี่น้องยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยที่อ้างว่า วัตถุดิบที่สองพี่น้องจำหน่ายให้กับเจ๊ปูนั้น มาจาก เอทิลแอลกอฮอล์ ร้อยละ 95 ผสมกับน้ำดื่ม ในอัตราส่วนเฉพาะที่ทั้งสองพี่น้องได้คิดค้นสูตรขึ้นมา โดยทั้งนายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย ยังคงยืนยันใน คุณภาพของเอทิลแอลกอฮอล์ ร้อยละ 95 ที่ทั้งสองนำมาใช้เป็นส่วนผสม ว่าเป็นวัตถุดิบซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ในการอุตสาหกรรมประกอบอาหาร มนุษย์สามารถที่จะรับประทานได้ ทั้งสองพี่น้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุของคดีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งยังให้การว่า ทั้งสองคนไม่ทราบ และเกี่ยวข้องกับการกระทำใด ๆ ของเจ๊ปูแต่อย่างใด ทั้งสองคนเป็นเพียงผู้ผลิตวัตถุดิบและนำไปจำหน่ายในราคาส่งให้กับเจ๊ปูเพียงเท่านั้น
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวต่อว่า ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสอง เพราะจากการสืบสวนสอบสวนที่ผ่านมา จนนำไปสู่การพบพยานหลักฐานจำนวนมาก ที่บ่งชี้ไปที่สองพี่น้องผู้ต้องหารายนี้ จนกระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับทั้งสองในข้อหาหนัก หลังจากนี้จะมีการขยายผลโดยละเอียดต่อไป และตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียมา ณ ที่นี้ ตำรวจจะมีการดำเนินการสืบสวนหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด และหากท่านใดมีเบาะแสในลักษณะนี้สามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ที่ เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป.