ศาลอาญามีนบุรีพิพากษาจำคุก 4 จำเลย บุกรุกบ้านอากู๋ ปรับ 2.2 หมื่น ชดใช้ 1 ล. รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง รอลงอาญา 2 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2567 ศาลอาญามีนบุรีอ่านฟังคำพิพากษา คดีอ.1183/2567 ที่ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 ยื่นฟ้อง น.ส.ศรีพรรณ สามัคคี , นางนิตยา สามัคคี นายพลกฤษณ์ ทองคำ และ น.ส.มาลี คินน้อย รวม 4 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานบุกรุก,ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์
กรณีจำเลยทั้งหมดบุกรุกบ้านของอากู๋ และอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เป็นของตนเอง ก่อนจะย้ายออกไปเมื่อปลายปี 2566 และลักลอบกลับเข้ามาอ้างสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์อีกครั้ง จึงได้มีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรามอินทรา 58 กทม.
โดยจำเลยได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ด้วยวงเงินคนละ 50,000 บาท
ช่วงเช้าวันนี้ อัยการโจทก์และทนายความโจทก์ร่วม จำเลยทั้ง 4 คนพร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อระหว่างปี 2560-2566 จำเลยทั้งสี่ได้บุกรุกเข้าไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เพื่อจะเข้าไปต่อเติมสิ่งปลูกสร้างและอยู่อาศัย แต่โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ามีการบุกรุกในตอนกลางวันหรือกลางคืน จึงต้องฟังให้เป็นคุณแก่จำเลยว่าเป็นการบุกรุกในเวลากลางวัน เเละไม่ได้เป็นการกระทำความผิดโดยบุกรุกอย่างต่อเนื่อง
พิพากษาว่า ตำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 ,365 ประกอบมาตรา 83 การกระทำความผิดเป็นการกระทำกรามเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานบุกรุกจำคุก6 เดือนปรับ 2 พันบาท เเละความผิดฐานลักทรัพย์จำคุกคนละ 1 ปีปรับคนละ 2 หมื่นบาท จำเลยทั้ง 4 ให้การรับสารภาพลดกึ่งหนึ่งฐานบุกรุกคงจำคุก 3 เดือนปรับ 1,000 บาท ลดโทษกึงหนึ่งฐานลักทรัพย์คงจำคุก 6 เดือนปรับ 1 หมื่นบาท รวมโทษจำคุกจำเลยทั้ง 4 คงจำคุก 9 เดือน ปรับ 11,000 บาท
พิเคราะห์เเล้วเห็นว่า จำเลยทั้ง 4 อายุมากเเล้วเเละจำเลยยังร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 1 ล้านบาท จนเป็นที่พอใจของผู้เสียหายเเล้ว จึงเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ในส่วนข้อหาทำให้เสียทรัพย์ซึ่งเป็นคดียอมความกันได้ทางโจทก์ร่วมขอถอนฟ้องไม่ติดใจเอาความ
น.ส.อำนวยพร มณีวรรรณ์ ทนายความผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ศาลมีคำพิพากษาให้ผู้เสียหายชนะคดี ในข้อหาฐานบุกรุก,และลักทรัพย์ รวมโทษที่ลดเเล้ว จำคุก 9 เดือน ปรับ 1.1 หมื่นบาท ในส่วนทำให้เสียทรัพย์โจทก์ร่วมถอนฟ้อง ศาลเมตตาเนื่องจากเห็นว่าไม่เคยกระทำผิดเเละจำเลยสูงอายุจึงให้รอลงอาญา 2 ปีหลังจากนี้คดีก็จะจบลงที่ศาลชั้นต้นเนื่องจากทางผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ซึ่งตอนนี้จำเลยก็ชดใช้ค่าเสียหายในส่วนคดีครอบครองปรปักต์ที่ฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องก็มีการถอนคำร้องไปก่อนหน้านี้
นายซัน หลานอากู๋ เดินทางมาพร้อม น.ส.สโรชา ภรรยา โดย น.ส.สโรชา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนของคนกระทำเเบบนี้ สิ่งที่มันผิดฎหมายที่เราควรรู้ว่าการไปยุ่งของๆคนอื่นก็ควรมีบทลงโทษไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไปในสังคม