ครม.เห็นชอบผ่อนปรนมติครม.ปี 46 กรณีบุคคลที่รุกที่ดินของรถไฟแล้วได้ทะเบียนบ้านชั่วคราว สามารถขอต่อน้ำ-ไฟได้ สั่ง ‘มหาดไทย-คมนาคม-เกษตร-กระทรวงทรัพย์ฯ-บอร์ดที่ดินแห่งชาติ’ ร่างแผนล้อมคอก ป้องกันการเพิ่มจำนวนของผู้บุกรุก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 12 มีนาคม 2567 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2546 เรื่อง การออกเลขที่บ้านชั่วคราวให้กับผู้บุกรุกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เสนอ สาระสำคัญ มีดังนี้
1. พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 34 บัญญัติให้ทุกบ้านมีเลขประจำบ้าน และมาตรา 36 บัญญัติให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นจัดทำทะเบียนบ้านไว้ทุกบ้าน นายทะเบียนจึงมีหน้าที่ต้องออกทะเบียนบ้านให้แก่บ้านทุกบ้านที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่ว่าเจ้าของบ้านจะมีสิทธิในที่ดินอันเป็นที่ตั้งของบ้านหรือไม่ ทำให้มีการออกทะเบียนบ้านชั่วคราวให้กับบ้านที่มีการปลูกสร้างขึ้นโดยบุกรุกที่ดินของรัฐ
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐอีกทางหนึ่ง ครม.จึงมีมติเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ในการให้บริการด้านต่าง ๆ แก่ประชาชนที่มีผลกระทบหรือเกี่ยวโยงกับที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า ถือเป็นหลักปฏิบัติโดยเคร่งครัดว่า กรณีประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวมาขออนุญาตใช้บริการต่าง ๆ ดังกล่าว จะอนุญาตได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐที่ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่บ้านในทะเบียนบ้านชั่วคราวนั้น ๆ ตั้งอยู่ โดยให้ถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมตินี้เป็นต้นไป
2. ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ได้ผ่อนปรนให้ประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวซึ่งออกให้กับที่อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างขึ้นในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ สามารถขอใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาได้ในอัตราค่าบริการที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวในระยะยาว ซึ่งบางส่วนไม่มีสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาใช้มาเป็นเวลานานมากแล้ว ครม.จึงมีมติเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เร่งรัดการดำเนินการขอผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546
รวมทั้งเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดิน ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐมาก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติในวันนี้ (วันที่ 9 มกราคม 2567) สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราวตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยให้ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการนำร่องก่อนเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน และให้ สคทช. รายงานผลการดำเนินการให้ครม.ทราบภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ ให้ มท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับ สคทช. ในการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นตามหน้าที่และอำนาจด้วย
3. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รายงานว่า เพื่อให้การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 เป็นไปโดยรวดเร็ว กฤษฎีกาจึงเสนอขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
4. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีความเห็นเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบด้านการบุกรุกที่ดินของรัฐเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการที่ผู้บุกรุกที่ดินของรัฐไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณูปโภคได้จนอาจทำให้มีการบุกรุกในที่ดินอื่นต่อไป เห็นสมควรให้ สคทช. ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดแนวทางเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราว ตามหลักสิทธิมนุษยชนโดยเร็ว ควบคู่ไปกับการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐให้ชัดเจนและเหมาะสมต่อไป
ที่มาภาพปก: Facebook ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย