‘ชัชชาติ’ ย้ำหนักแน่นโอน 3 รถไฟฟ้าให้คมนาคมแน่นอน ชี้ชัดกทม.จะมีสายสีเขียวสายเดียว จ่อทำต่อขยาย ‘บางหว้า-ตลิ่งชัน’ ก่อนเปิดเผยการประชุมผู้บริหารกทม.จับตาหลายเรื่อง บุหรี่ไฟฟ้า-ขุดลอกคูคลองรับหน้าฝน-ฝุ่นPM2.5-ฮีทสโตรก-เร่งรัดงานก่อสร้างขนาดใหญ่ 2 งาน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5/2567 ได้นำข้อหารือจากที่ได้พบปะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายกรัฐมนตรีเร่งรัดเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของกทม.จะเน้นบริเวณโดยรอบโรงเรียนในสังกัดกทม. ซึ่งภายในโรงเรียนมีมาตรการต่าง ๆ อยู่แล้ว อาทิ การตรวจค้น แต่จะดูรัศมีรอบโรงเรียนโดยเอากลไกของ สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) เป็นหลักในการดำเนินการ ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนและเอาจริงจัง
@ประเดิมขุดลอกคูคลอง 2 มี.ค.67 นี้
เรื่องถัดมา คือการเตรียมตัวรับมือน้ำท่วม นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานทหารร่วมมือกับ กทม.ในการลอกคลอง จริง ๆ แล้วก็มีแผนการลอกคลองอยู่แล้ว แบ่งเป็น 2 ส่วน คือจ้างเอกชนขุดลอกส่วนหนึ่ง และเราทำเองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เราจะทำเองก็จะมีทหารเข้ามาช่วย โดยจะแบ่งพื้นที่กัน เช่น ทางตอนเหนือ เขตดอนเมืองอาจมีทหารอากาศมาช่วย ทหารเรือ ทหารบกก็ช่วยรับผิดชอบส่วนอื่น เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ท่านนายกฯ ให้เร่งทำ ขณะนี้แต่ละเขตมีแผนแล้วว่าจะแบ่งหน่วยงานทหารอย่างไรและเครื่องมืออย่างไร คาดว่าจะเริ่มได้วันเสาร์นี้ (2 มี.ค. 67) หรือวันเสาร์ถัดไป (9 มี.ค. 67) อีกเรื่องคือ ความสะอาดเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีมหามงคลครบรอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะให้เน้นเรื่องการดูแลความสะอาด ซึ่งเราก็ทำอยู่แล้ว แต่ต้องเพิ่มจุดที่สำคัญโดยเฉพาะคูคลองต่าง ๆ ถนนหรือบริเวณที่ยังไม่สะอาดเรียบร้อยอยู่ก็ต้องทำเต็มที่
@เตรียมพื้นที่ข้าวสารรับมหาสงกรานต์ซอฟต์พาวเวอร์
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า สำหรับในที่ประชุมวันนี้ เรื่องสำคัญคือ เรื่องการเตรียมตัวสำหรับเทศกาลสงกรานต์ ปีนี้จะเป็นสงกรานต์ที่ค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะจัดเป็นมหาสงกรานต์และซอฟต์พาวเวอร์ ในส่วนของกทม. จะเป็นผู้เตรียมความพร้อมของพื้นที่ข้างเคียงซึ่งจะมีถนนข้าวสารเป็นหัวใจ และต้องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานของถนนข้าวสารและพื้นที่ข้างเคียงให้เป็นที่ปลอดภัย ไม่ใช่เฉพาะกรณีเทศกาลสงกรานต์แต่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัยในระยะยาวสำหรับทุกเทศกาล ต้องมีมาตรการต่าง ๆ เช่น ทำป้ายทางออกฉุกเฉิน กล้อง CCTV ห้องคอมมานเซ็นเตอร์ที่คอยสังเกตการณ์ เสากระจายข่าวแจ้งเตือน ห้องน้ำสาธารณะ มีการซักซ้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น เพื่อเป็นการเตรียมโครงสร้างสำหรับรองรับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนําของโลกบริเวณนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ ส่วนแผนการบริหารจัดการคนมาท่องเที่ยวอย่างไร ก็ต้องให้กับสอดคล้องกับแผนหลักของรัฐบาลในการทำถนนราชดำเนินเป็นถนนเส้นหลักในการจัดงาน
@เน้นย้ำ โอนเทา-ฟ้า-เงิน ให้ คมนาคม กทม.เอาแค่สายสีเขียว
ผู้ว่ากทม.กล่าวต่อไปว่า ภารกิจที่จะโอนโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ประกอบด้วย สายสีฟ้า (ดินแดง-สาทร) สายสีเทา (วัชรพล-ทองหล่อ) สายสีเงิน (บางนา-สุวรรณภูมิ) คืนให้แก่กระทรวงคมนาคม (คค.) โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเทาที่จะผ่านรถไฟฟ้าหลายเส้นมาก อาทิ สายสีชมพู สายสีน้ำตาล สายสีเหลือง สายสีส้ม และสายสีเขียว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นของกระทรวงคมนาคม ของกทม.มีเส้นเดียวคือสายสีเขียว อีกทั้งในการดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทาต้องใช้เงินลงทุนเกือบ 30,000 ล้านบาท ซึ่งกทม.คิดว่าถ้าให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการน่าจะมีประโยชน์กับประชาชนมากกว่า ต้องยืนยันว่า กทม. ไม่ได้ยุติโครงการ แต่ให้หน่วยงานที่เขามีความรับผิดชอบโดยตรงและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนดูแลดีกว่า ส่วนกทม.จะเน้นที่ส่วนต่อขยายสายสีเขียว บางหว้า-ตลิ่งชัน ขณะนี้อยู่ระหว่างให้บริษัทที่ปรึกษาศึกษาโครงการ
@ฝุ่นจาง ฮีทสโตรกน่าห่วงแทน
สำหรับสถานการณ์ฝุ่นขณะนี้เริ่มดีขึ้น มีลมตะวันออกพัดมา น่าจะดีไปอีกหนึ่งสัปดาห์ แต่ที่กังวลมากคือเรื่องอุณหภูมิสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก (Heatstroke) โดยตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 67 กรมอุตุฯได้ประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ปีนี้คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าปกติ 1-2 องศา ซึ่งเกี่ยวกับปรากฏการเอลนีโญ คาดการณ์ว่าปีนี้อากาศจะค่อนข้างร้อน
สำหรับมาตรการก็ดำเนินการคล้ายกับมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 มีเรื่องของการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนประชาชน การป้องกันสุขภาพ มาตรการลดอุณหภูมิเมืองซึ่งก็เป็นมาตรการระยะยาว โดยในที่ประชุมได้การสั่งให้สำนักงานเขตทุกเขตทำการประเมินจุดเสี่ยงในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นชุมชน โรงเรียน ไซต์ก่อสร้าง สวนสาธารณะ และเน้นประชาสัมพันธ์สำหรับคนที่แข็งแรง เพราะถ้าเราจะมองว่าผู้สูงอายุหรือว่ากลุ่มเสี่ยงเป็นเป็นผู้ที่จะได้รับผลกระทบ คนแข็งแรงเช่นกัน อย่างเช่นคนที่ออกกําลังกายในสวน แรงงานก่อสร้าง หรือเกษตรกร ส่วนในโรงเรียนก็มีการจัดอบรมเพื่อที่จะได้ทราบแนวทางในช่วงที่นักเรียนจะปิดเทอมว่าอยู่บ้านควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร สำหรับเจ้าหน้าที่กทม.ก็ได้มีควรจะมีมาตรการในการตระหนักเรื่องนี้ ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อมได้ปรับเปลี่ยนเวลาการทำงานของพนักงานที่ต้องทำงานกลางแจ้งเพื่อที่จะเว้นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดของวัน
ขณะเดียวกัน กทม.ได้ดำเนินการลดอุณหภูมิเมืองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ล้านต้น สวน 15 นาที หรือมาตรการทางผังเมืองที่ส่งเสริมพื้นที่สีเขียว
จริง ๆ แล้ว ก็ได้เน้นย้ำในเรื่องของการให้ความรู้ประชาชนเพิ่มเติมว่า อุณหภูมิไม่ใช่ตัวสำคัญเพียงอย่างเดียวในการเกิดฮีทสโตรก แต่เป็นเรื่องของ Index เพราะว่าจะมีเรื่องความชื้นด้วย ถ้าอุณหภูมิสูงและความชื้นสูงจะยิ่งหนัก หรือเหงื่อไม่ระเหยทำให้เหมือนกับว่าเราเสียน้ำแต่ว่าอุณหภูมิร่างกายไม่ลดลง ก็จะแจ้งเตือนให้แต่ละโรงเรียนขึ้นป้าย Index ที่แสดงทั้งอุณหภูมิและเรื่องความชื้น ว่าอันตรายไหม เด็กจะได้ระวังระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น
@เร่งรัดโครงการก่อสร้าง กทม. 3 โครงการ
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่สำคัญคือ การเร่งรัดโครงการต่าง ๆ ของสำนักการโยธาและสำนักการระบายน้ำที่หลายโครงการยังมีความล่าช้าอยู่ ซึ่งความล่าช้าจะมีจากหลายประเด็น เช่น เรื่องความพร้อมของผู้รับเหมา ความพร้อมของพื้นที่ ไม่สามารถเอาพื้นที่ที่ประชาชนอยู่คืนมาได้ หรือในช่วงโควิด-19 ที่มีการชะลอการก่อสร้างหมด โดยปีนี้มีโครงการของสำนักการโยธาที่คาดว่าจะแล้วเสร็จอยู่ 3 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างปรับปรุงสะพานข้ามแยกบางกะปิ (สะพานลาดพร้าว-เสรีไทย) 2. โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลคลองสามวา และ 3. โครงการก่อสร้างอาคารหอผู้ป่วย โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร