‘อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์’ อดีตสส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ขึ้นไต่สวนกรณีฟ้อง 'ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์' เบิกความเท็จ คดีถูกกล่าวหาคดีเรียกรับเงิน 5 ล้าน แลกผ่านโครงการขุดเจาะน้ำบาดาลพลังงานเเสงอาทิตย์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2567 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต สส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งเป็นอดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นจำเลย ในข้อหาเบิกความเท็จ กรณีมีการกล่าวหาว่านายอนุรักษ์ ได้เรียกรับสินบนจำนวน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา ซึ่งขณะนั้นนายอนุรักษ์ ดำรงตำแหน่งรองประธานอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ใน กรรมาธิการฯ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในการพิจารณางบประมาณ โครงการขุดเจาะน้ำบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์
โดยในวันนี้นายอนุรักษ์โจทก์เดินทางมาพร้อมนายเดชา กิติวิทยานันท์ ทนายความ
นายเดชา กล่าวว่า วันนี้ไต่สวนมูลฟ้องนัดที่สอง คราวที่แล้วนายศักดาให้ทนายมาเลื่อน เราได้ฟ้องนายศักดิ์ดาว่าเบิกความเท็จเกี่ยวกับที่กล่าวหานายอนุรักษ์ เรื่องเรียกเงิน ซึ่งเป็นเรื่องไม่เป็นความจริง โดยคดีฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งแล้วก็พ้นจากความเป็น สส.
ทั้งนี้คดีที่นายอนุรักษ์โดนศาลพิพากษาเรื่องผิดจริยธรรมร้ายแรง มีประจักษ์พยานสําคัญเพียงปากเดียว คือนายศักดา และไม่มีคลิปเสียง ไม่มีแชท ไม่มีหลักฐานอื่น ตนคิดว่าคําเบิกความนายศักดาน่าจะมีปัญหาไม่หนักแน่น เพราะว่าในรายงานที่ทําถึงปลัดกระทรวงมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องเท็จ
ตามความเข้าใจของทางนายอนุรักษ์ ไม่ได้มีการเรียกเงินจากนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ แต่ว่าทางนายศักดากลับไปเบิกความและแจ้งป.ป.ช.ว่า นายอนุรักษ์เรียกเงินหลายคน ทําให้ศาลมองว่ามีพฤติการณ์ในการแสวงหาผลประโยชน์จึงเชื่อคําเบิกความของนายศักดาและพิพากษาให้ทางนายอนุรักษ์แพ้คดี ตอนนี้นายอนุรักษ์ได้อุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วอยู่ขั้นตอนคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์กําลังจะเลือกองค์คณะวินิจฉัยคดียังไม่ถึงที่สุด
ทั้งนี้ทางเราได้มีการฟ้องนักจัดรายการเป็นผู้ประกาศข่าวสองคนผู้ชายและผู้หญิง ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ กรณีที่ไปอ้างว่านายศักดามีเทปการสนทนาอะไรต่างๆ ตอนนี้ศาลชี้ว่าคดีมีมูลแล้ว ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบพยาน
เมื่อถามว่าทนายความมั่นใจคดีนี้การทำคดีนี้หรือไม่ นายเดชากล่าวว่า ก็ว่ากันตามพยานหลักฐานผิดถูกก็รอศาลตัดสิน แต่ก็เชื่อมั่นในพยานหลักฐานคดีจะมีมูลหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลอาญา
ด้านนายอนุรักษ์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่วัตถุพยาน มีพยานปากเดียว นายศักดิ์ดาให้การไม่ตรงกัน ขัดแย้งกับตัวเอง ขัดแย้งกับพยานปากอื่นด้วยและมีพยานอยู่ปากเดียว เชื่อมั่นในทางทฤษฎีทางกฎหมายแล้วเอาผิดตนไม่ได้ เพราะว่าไม่มีหลักฐานมีเพียงคํากล่าวหาเฉยๆก็ไม่กังวลเพราะว่าเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตนเอง
ตอนนี้กำลังจัดตั้งมูลนิธิตั้งปณิธานช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์จากการกระทําของเจ้าพนักงานของรัฐโดยมิชอบ อย่างคดีของตนเองในขบวนการยุติธรรมบางส่วนคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่อยากให้เกิดคดีแบบนี้กับใคร ฉะนั้นก็จะตั้งมูลนิธิฯขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ ได้ยื่นขอจดทะเบียนไปแล้วคาดว่า เดือนกุมภาพันธ์น่าจะเสร็จ วัตถุประสงค์ก็คือช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกการกระทําของเจ้าพนักงานของรัฐโดยไม่ชอบและตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการใช้งบประมาณแผ่นดิน กรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีพิรุธมากมาย เราไปตรวจสอบพบเรื่องซื้อของแพง
"ตั้งแต่นายศักดิ์ดามาเป็นในอธิบดีฯ ทําอะไรผิดบ้าง และผมยืนยันทําหนังสือถึงรัฐมนตรีแล้วว่าขอให้ตั้งกรรมการออกไปตรวจสอบ อย่างในสื่อสังคมออนไลน์ของตนก็มีคนส่งข้อมูลเข้ามามากมายเลือกการก่อสร้างผิดแบบ มั่นใจว่าต้องทำผิดทั้งประเทศ" นายอนุรักษ์ กล่าว
นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามแม้เรื่องจะเกิดก่อนการแต่งตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ตนเองได้ทำหนังสือ ช่วยไขความกระจ่างให้เกิดข้อเท็จจริงแก่ประชาชนว่าเรื่องที่ตนเองกล่าวในการซื้อของแพงและการทำผิดแบบมาตรฐานเป็นเรื่องจริงหรือไม่
อ่านประกอบ
โทษหนัก! คุก 6 ปี 'อนุรักษ์' อดีต ส.ส.เพื่อไทยคดีเรียกเงิน5ล.-ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง