ผู้การ 191 มอบรางวัลเชิดชู 7 จนท.ชุดเจรจาคลี่คลายเหตุการณ์เยาวชน 14 ปี ก่อเหตุยิงในห้างสยามพารากอน ฝาก ปชช. อย่าโทรศัพท์มาป่วน หรือแจ้งเหตุเท็จกับสายตรวจ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ.(191) มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ ร.ต.อ. พศวัต จงจิตร รองสว.ชุดปฏิบัติการ กองกำกับการศูนย์รวมข่าว บก.สปพ. และ ส.ต.ต.ธนชาต ใจสุภาแสน ผบ.หมู่ชุดปฎิบัติการ กองกำกับการ ศูนย์รวมข่าว บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์รับแจ้งเหตุ 5 คน คือนายประกรชัย ลี่แตง , นางสาวอัปสร เสียงล้ำเลิศ , นางสาวรำไพ พรหมสุข , นางสาวสุรีรัตน์ ยิ้มสมบัติ และนายพรเทพ ขาวสะอาด ที่มีส่วนในการเจรจาพูดคุยกับเด็กผู้ก่อเหตุ และประสานข้อมูลในการเข้าระงับเหตุการณ์ยิงในศูนย์การค้าสยามพารากอน
นายประกรชัย ลี่แตง เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุ หัวหน้างานการฝึกอบรม ซึ่งเป็นผู้โทรศัพท์เจรจาพูดคุยกับเด็กผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุนั้นเด็กผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์เข้ามาที่สายด่วน 191 โดยมีพนักงานหญิงเป็นผู้รับสายเมื่อพูดคุยแล้วทราบว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงจึงให้หัวหน้าพนักงานมาพูดคุยต่อก่อนจะส่งสายโทรศัพท์ให้ตนเองเป็นผู้พูดคุยเจรจาใช้เวลาประมาณ 28 นาที
โดยพยายามพูดคุยกับผู้ก่อเหตุให้ใจเย็นและยอมวางอาวุธเพื่อมอบตัวกับตำรวจ โดยมีตำรวจที่อยู่เวรศูนย์วิทยุผ่านฟ้า และ พล.ต.ต.ภานพ โทรศัพท์เข้ามาฟังการเจรจาแบบเรียลไทม์ เพื่อนำข้อมูลส่งให้เจ้าหน้าที่หน้างานชประเมินสถานการณ์ในการเข้าระงับเหตุ จนควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาต่อมา โดยการจรจามุ่งเน้นการเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัวแต่โดยดี แต่จะไม่ไปสอบถามถึงสาเหตุของการก่อเหตุ เพราะอาจเป็นการจุดชนวนให้เกิดความเครียดไปจี้จุดจนอาจทำให้ก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่องไปอีกและไม่ให้ทำร้ายตนเองอีกทั้งยังยอมรับว่าตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็พยายามควบคุมสติเพื่อให้การเจรจาสัมฤทธิ์ผล
ด้าน ร.ต.อ. พศวัต จงจิตร รองสว.ชุดปฏิบัติการ กองกำกับการศูนย์รวมข่าว บก.สปพ. ระหว่างการเจรจาก็พยายามนำข้อมูลส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างาน เพื่อเข้าระงับเหตุ ยอมรับว่า ขณะนั้นสถานการณ์ค่อนข้างมีความกดดันเพราะต้องทำให้เหตุการณ์สงบโดยเร็วและไม่ให้เกิดความสูญเสียเพิ่มเติม
พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ.(191) เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุประสานข้อมูลเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ใช้ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า ประสานงานกับ ศูนย์วิทยุนารายณ์ เป็นหลักเริ่มจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุได้รับสายโทรศัพท์จากเด็กผู้ก่อเหตุ โดยมีตำรวจเป็นตัวกลางนำข้อมูลการเจรจาส่งให้กับตำรวจในพื้นที่ เพื่อวางแผนเข้าระงับเหตุ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จึงมีแนวคิดที่จะผลักดันให้มี 191 แห่งชาติ คือให้ 191 ทุกจังหวัดมีประสิทธิภาพเหมือนกับ 191 ในกรุงเทพมหานคร อีกทั้งฝากถึงประชาชนขอความร่วมมือว่าอย่าโทรศัพท์มาป่วน หรือแจ้งเหตุเท็จกับสายตรวจ 191 เพราะในยามคับขันสายโทรศัพท์ดังกล่าวอาจมีความสำคัญต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่