นิด้าโพล เผยผลสำรวจ 'มีลูกกันเถอะน่า' ชี้กลุ่มตัวอย่าง 44% ไม่อยากมีลูก เหตุผลไม่อยากเพิ่มค่าใช้จ่าย-ไม่อยากมีภาระ-ต้องการชีวิตอิสระ-ห่วงลูกว่าจะอยู่อย่างไรในสภาพสังคมปัจจุบัน-กลัวเลี้ยงไม่ดี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' เผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง 'มีลูกกันเถอะน่า' ระหว่างวันที่ 26-28 กันยายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุระหว่าง 18-40 ปี กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการมีลูกในปัจจุบัน ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงสถานะการแต่งงานและการมีลูก พบว่า
- ร้อยละ 29.39 ระบุว่า เป็นโสดและไม่มีแฟน
- ร้อยละ 26.57 ระบุว่า แต่งงานจดทะเบียนสมรสและมีลูกแล้ว
- ร้อยละ 20.92 ระบุว่า เป็นโสดแต่มีแฟนแล้ว
- ร้อยละ 10.99 ระบุว่า แต่งงานไม่ได้จดทะเบียนสมรสและมีลูกแล้ว
- ร้อยละ 4.58 ระบุว่า แต่งงานจดทะเบียนสมรสแต่ไม่มีลูก
- ร้อยละ 2.52 ระบุว่า เป็นแม่หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว (หม้ายที่มีลูกแล้ว โสดและมีลูกแล้ว)
- ร้อยละ 1.98 ระบุว่า แต่งงานไม่ได้จดทะเบียนสมรสแต่ไม่มีลูก และมีคู่ครอง (อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้แต่งงาน) และมีลูกแล้ว ในสัดส่วนที่เท่ากัน
- ร้อยละ 1.07 ระบุว่า มีคู่ครอง (อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้แต่งงาน) แต่ไม่มีลูก
เมื่อสอบถามผู้ที่ยังไม่มีลูก (จำนวน 759 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับการอยากมีลูก พบว่า
- ร้อยละ 53.89 ระบุว่า อยากมี
- ร้อยละ 44.00 ระบุว่า ไม่อยากมี
- ร้อยละ 2.11 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อสอบถามผู้ที่ไม่อยากมีลูก (จำนวน 334 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับสาเหตุที่ไม่อยากมีลูก พบว่า
- ร้อยละ 38.32 ระบุว่า ไม่อยากเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูก และเป็นห่วงว่าลูกเราจะอยู่อย่างไรในสภาพสังคมปัจจุบัน ในสัดส่วนที่เท่ากัน
- ร้อยละ 37.72 ระบุว่า ไม่อยากมีภาระต้องดูแลลูก
- ร้อยละ 33.23 ระบุว่า ต้องการชีวิตอิสระ
- ร้อยละ 17.66 ระบุว่า กลัวเลี้ยงลูกได้ไม่ดี
- ร้อยละ 13.77 ระบุว่า อยากให้ความสำคัญกับงานมากกว่า
- ร้อยละ 5.39 ระบุว่า สุขภาพตนเองหรือคู่ครองไม่ค่อยดี
- ร้อยละ 2.10 ระบุว่า กลัวพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์จะไม่ดี ทำให้ลูกที่เกิดมาไม่ดีไปด้วย
- ร้อยละ 0.90 ระบุว่า กลัวกรรมตามสนองเนื่องจากเคยทำไม่ดีไว้กับพ่อ แม่
ส่วนความกังวลต่อจำนวนเด็กเกิดใหม่ในอนาคตว่าจะมีน้อยมาก พบว่า
- ร้อยละ 50.53 ระบุว่า ไม่กังวลเลย
- ร้อยละ 23.13 ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล
- ร้อยละ 17.79 ระบุว่า ค่อนข้างกังวล
- ร้อยละ 8.55 ระบุว่า กังวลมาก
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงมาตรการที่รัฐควรสนับสนุนเพื่อให้คนไทยมีลูก พบว่า
- ร้อยละ 65.19 ระบุว่า สนับสนุนการศึกษาฟรีในประเทศจนถึงขั้นสูงสุดสำหรับคนมีลูก
- ร้อยละ 63.66 ระบุว่า รัฐอุดหนุนค่าเลี้ยงดูลูกจนถึงอายุ 15 ปี
- ร้อยละ 30.00 ระบุว่าลดภาษีเงินได้สำหรับคนมีลูก
- ร้อยละ 29.47 ระบุว่า เพิ่มวันลาให้แม่และพ่อในการเลี้ยงดูลูก
- ร้อยละ 21.91 ระบุว่า มีเงินรางวัลจูงใจที่สูงสำหรับเด็กแรกเกิด
- ร้อยละ 19.92 ระบุว่า อุดหนุนทางการเงินแม่ พ่อเลี้ยงเดี่ยว
- ร้อยละ 17.18 ระบุว่า พัฒนาและอุดหนุนการเงินศูนย์เลี้ยงเด็กเล็ก
- ร้อยละ 9.85 ระบุว่า มีบริการฟรี ศูนย์ผู้มีบุตรยาก
- ร้อยละ 7.48 ระบุว่า เพิ่มภาษีเงินได้สำหรับคนไม่มีลูก
- ร้อยละ 5.50 ระบุว่า รัฐเปิดช่องทางในการอุ้มบุญมากขึ้น
- ร้อยละ 4.89 ระบุว่า รัฐมีหน่วยงานจัดหาคู่ให้กับคนไทย
- ร้อยละ 2.75 ระบุว่า รัฐไม่จำเป็นต้องมีมาตรการใด ๆ
- ร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ