สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานเปิดอาคารนาลันทามหาวิหาร วัดเน็มบุตสึชู ซัมโปซัน มูเรียวจูจิ เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโกะ ประเทศญี่ปุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 07:45 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรทัศนียภาพของสวนโซระคุเอน สวนสาธารณะของเทศบาลเมืองโกเบ ขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญของญี่ปุ่นเมื่อปี 2549 เดิมเคยเป็นบ้านของอดีตนายกเทศมนตรีเมืองโกเบ จัดสวนแบบญี่ปุ่น มีสะพานหินข้ามทางน้ำไหล และน้ำตกจำลอง มีต้นไม้โบราณหายากชนิดต่างๆ ได้แก่ สวนต้นปรง ต้นการบูรยักษ์อายุกว่า 500 ปี ต้นกุหลาบพันปี ต้นเมเปิล รวมทั้งเรือยากาตะ ที่แยกถอดมาจากเรือชมแม่น้ำคาวาโกะ ซามุเนะ ใกล้ๆกันมีบ้านของครอบครัวฮัสซัม พ่อค้าชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียที่มาประกอบอาชีพในเมืองโกเบ เป็นสถาปัตยกรรมยุโรปสมัยเมจิ และตึกคอกม้าเก่าของตระกูลโคะเดระ ที่เทศบาลย้ายมาตั้งในสวนด้วย สวนนี้นอกจากเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์สถานที่สำคัญ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างความภาคภูมิใจให้คนในพื้นที่ร่วมใจกันรักษา
ต่อมาเวลา 08:30 น. ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปวัดเน็มบุตสึชู ซัมโปซัน มูเรียวจูจิ เมืองโกเบ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงมีประชาชนและพุทธศาสนิกชนเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จตลอดเส้นทางที่รถพระที่นั่งเคลื่อนผ่าน พระอาจารย์คิวเสะ เอ็นชินโจ เจ้าอาวาสวัดเน็มบุตสึชู ซัมโปซัน มูเรียวจูจิ พร้อมด้วยสมเด็จพระสังฆนายก ทัมบาโน มุนคัน ทัพจูชอยจัง เมนเดเรล ประธานองค์การพุทธศาสนา พระมหาเวระโคทะ สาราทะ มหานายกเถโร เลขาธิการองค์การพุทธศาสนาและหัวหน้าคณะของวัดเฝ้ารับเสด็จ
วัดแห่งนี้ พระอาจารย์คิวเสะ เอ็นชินโจ ผู้ก่อตั้งนิกายเนมบุตสึแห่งญี่ปุ่น เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งขึ้น เพื่อเป็นพุทธศาสนสถาน ศูนย์กลางของพุทธศาสนิกชนทุกนิกายทั่วโลก เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 โอกาสนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นประธานเปิดอาคารนาลันทามหาวิหาร สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ทรงเผยแพร่พระพุทธศาสนาสู่โลก จากพระราชกรณียกิจในการส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ต่างๆ จนเป็นที่ประจักษ์กับทุกคนทุกชาติ เป็นสถานที่ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพุทธศาสนาสำหรับพระภิกษุสงฆ์ พุทธศาสนิกชน และผู้สนใจจากทั่วโลก ในลักษณะเดียวกับมหาวิทยาลัยนาลันทาของอินเดียในอดีต ซึ่งได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2553
อาคารนาลันทามหาวิหารมีพื้นที่ 660,000 ตารางเมตร ด้านหน้ามีเสาหินขนาดใหญ่สูง 18 เมตร ฐานกว้างขนาด 6 คนโอบ ภายในอาคารมี 6 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นโดม มีห้องทองประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ รอบห้องมีพระพุทธรูปและพระอรหันต์ประดับด้วยทองคำ มีห้องรับรองพิเศษ ห้องสมุด ห้องอาหารและหอประชุมใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านการศึกษาที่ทันสมัย
นอกจากนี้ มีห้องทรงงานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และห้องเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรด้วย
ในการเสด็จพระราชดำเนินวัดเน็มบุตสึชู ซัมโปซัน มูเรียวจูจิ ในครั้งนี้ เจ้าอาวาสวัดและคณะสงฆ์ได้ถวายประกาศนียบัตรเฉลิมพระเกียรติพระราชสมัญญานาม Princess Bringing Prosperity to World Buddhism with Torch of Morality and Education สมเด็จเจ้าฟ้าที่นำความรุ่งเรืองมาสู่โลกพระพุทธศาสนาด้วยศีลธรรมและการศึกษา แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่ทรงเชี่ยวชาญวิชาการด้านพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ และทรงช่วยพัฒนาการศึกษาและสวัสดิการของประชาชนด้วยคุณธรรมและพระเมตตา อันเป็นรากฐานแห่งพระพุทธศาสนา ทรงเป็นแบบอย่างสำหรับชาวพุทธทุกคนในโลก
โอกาสนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงอุทิศพระราชทานของ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ ประกอบด้วยอักษรจีนความว่า พุทธธรรมนำสันติสุข พระพุทธรูปปางนาคปรกจัดสร้างในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 4 รอบ ตาลปัตรและย่ามพระนามาภิไธย สธ. แด่พระอาจารย์คิวเสะ เอ็นชินโจ เจ้าอาวาสวัดเน็มบุตสึชู ซัมโปซัน มูเรียวจูจิ และตัวแทนคณะสงฆ์
ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับได้ทอดพระเนตรห้องสมุดที่รวบรวมพระไตรปิฎก สารานุกรม พจนานุกรมพุทธศาสนาของทุกนิกาย รวมทั้งพระไตรปิฎกอรรถกถาภาษาไทย อาทิ พระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก และทรงรดน้ำต้นซากุระเพื่อเป็นที่ระลึกที่ด้านหน้าอาคารนาลันทามหาวิหาร วัดเน็มบุตสึชู ซัมโปซัน มูเรียวจูจิ แห่งนี้ มีปณิธานที่จะรวบรวมพุทธศาสนานิกายต่างๆให้มารวมกัน เพื่อร่วมกันสร้างสันติสุขในโลก
เวลา 13:05 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินไปท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ นครโอซากา เพื่อประทับเครื่องบินของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค เที่ยวบินที่ CX 507 เสด็จพระราชดำเนินไปเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวและภริยา กงสุลใหญ่นครโอซากาและภริยา พร้อมด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารและข้าราชการฝ่ายต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาทส่งเสด็จ เป็นการเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้