ตัวแทน ปชช.ร้องสอบสวนกลางเอาผิด สปก.โคราช ชี้มีเอี่ยวเอื้อประโยชน์โรงงานแป้งมันปล่อยน้ำเน่าเสียที่นครราชสีมา ขณะ บก.ปทส. รับลูก ลงพื้นที่ตรวจสอบ ไม่พบเจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุภูมิ รักษาภักดี สว.(สอบสวน) กก.4. บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ สปก.โคราช ว่าเข้าข่าย ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามมาตรา 157 หรือไม่ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ให้โรงงานแป้งมันปล่อยน้ำเน่าเสียลงบนที่ดิน สปก.นับร้อยไร่ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก
นายกฤษฎา กล่าวว่า เมื่อกลางเดือน ก.ค. 2566 ที่ผ่านมาได้รับร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.หนองบัวศาลา จ.นครราชสีมา ว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเน่าเสียออกมาจากโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศพบว่าโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับที่ดิน สปก.และ พบว่าโรงงานแห่งนี้ได้ทำการลักลอบขุดดินในที่ดิน สปก.เป็นจำนวนนับร้อยไร่โดยทำเป็นบ่อเพื่อต้องการปล่อยน้ำเน่าเสียลงไปในบ่อโดยวิธีระบายน้ำเน่าเสียจากบ่อที่หนึ่งไปยังบ่อที่สองและบ่อที่สามไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องกันไปเพื่อต้องการให้น้ำเน่าเสียกระจายพ้นบริเวณโรงงานไกลออกไปเป็นบริเวณกว้างกว่าหนึ่งตารางกิโลเมตร
“ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นการบำบัดน้ำเสียแบบไม่ต้องลงทุนสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียขึ้นภายในโรงงานเอง เพราะจะต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก เนื่องจากเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากการบำบัดน้ำเน่าเสียทิ้งลงไปในที่ดินของ สปก.นั้นตามกฎหมายไม่สามารถขออนุญาตใช้ที่ดิน สปก.ได้ เนื่องจากโรงงานเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรม จึงขัดต่อนโยบายการใช้ที่ดินของ สปก.เพราะต้องเป็นการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรเท่านั้น ประเด็นนี้โรงงานจึงใช้วิธีลักลอบปล่อยน้ำเน่าเสียลงบนที่ดิน สปก.แทน กินอาณาเขตกว่า 100 ไร่ ทำให้กลิ่นเหม็นของน้ำเสียจากการผลิตมันสำปะหลังกระจายออกไปเป็นบริเวณกว้างรัศมีหลายกิโลเมตร ส่งผลให้ชาวบ้านตลอดจนเด็กนักเรียนและพระสงฆ์ต้องอยู่กันอย่างทุกข์ทรมาน แต่เมื่อชาวบ้านไปร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องกลับเงียบเฉย ไม่มีหน่วยงานใดสนใจให้ความช่วยเหลือ”
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เทศบาล อบต.โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของ สปก.ระดับผู้อำนวยการ กลุ่มนายช่างสำรวจอาวุโส ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปัญหากลิ่นเหม็นและน้ำเน่าเสีย โดยที่ประชุมได้มีการนำภาพถ่ายทางอากาศบริเวณที่ดินของ สปก.ซี่งมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียแสดงบนจอมอร์นิเตอร์ แต่ ผอ.กลุ่ม นายช่างอาวุโสกลับไม่ชี้ชัดและยืนยันว่าเป็นที่ดินของ สปก.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส.และ ผอ.กลุ่ม นายช่างสำรวจอาวุโสก็ออกจากที่ประชุมเดินทางไปยังโรงงาน โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในโรงงานนานหลายชั่วโมงจนถึงเวลาประมาณ 17.00 น.ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจง ทำให้ชาวบ้านที่รออยู่บริเวณน้ำเน่าเสียต่างผิดหวังในการปฎิบัติหน้าที่ในครั้งนั้นจึงเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ สปก.เป็นการปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตโดยมีเจตนาพิเศษต้องการเอื้อประโยชน์ให้โรงงานแป้งมันไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย จึงต้องมาร้องทุกข์แทนชาวบ้าน แจ้งความดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ สปก.จำนวน 2 นาย ฐานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ และรับเอกสารจากผู้ร้องไปตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป