‘เอกนัฎ’ เผยท่าทีพรรคต่อการโหวตนายกฯของเพื่อไทย ยืนบนหลักการ ‘ไม่แก้ 112-ไม่มีก้าวไกล’ ถ้าชัดพร้อมจับมือ ขณะที่ ‘เสี่ยหนู’ แง้ม ‘ภูมิใจไทย’ น่าจะได้เก้าอี้ รมต. 4+4
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 สิงหาคม 2566 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรค ถึงการเทียบเชิญไปหารือกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ยังไม่มีการติดต่อมา แต่ทราบจากข่าวว่า จะมีการเชิญ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มี จะติดต่อมาเมื่อไหร่ไม่ทราบ ส่วนเรื่องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ที่ปล่อยข่าวกันออกมาตนคิดว่ามั่วกันไปหมด จนถึงวันนี้ยังไม่มีการต่อรองเรื่องเก้าอี้หรืออะไรใด ๆทั้งสิ้นแม้กระทั่งข่าวลือที่ออกมาว่า จะต้องเอาคนนี้ออก หรือไม่เอาคนใดเข้าไปเป็นรัฐมนตรีก็ไม่เป็นความจริง
นายเอกนัฏ กล่าวว่า การตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่บนหลักการที่เราเคยประกาศและสื่อสารต่อสาธารณชนไปแล้วว่า ต้องไม่มี เรื่องการแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกล หลังจากนั้น ก็พร้อมพูดคุยทั้งหมด การตัดสินใจร่วมไม่ร่วมรัฐบาลอยู่บนหลักการนี้ ไม่ได้แคร์เรื่องตำแหน่งหรือเรื่องของกระทรวง ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น หรือแม้แต่จะไปเป็นฝ่ายค้านก็พร้อม
@ยังไม่คิดต่อรองเก้าอี้ รมต.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าร่วมรัฐบาลควรจะได้รัฐมนตรีกี่เก้าอี้ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่คิดอะไรเลยไม่ได้อยู่ในใจเลยว่า จะต้องได้เท่าไหร่อย่างไร คิดก่อนว่าหากมีการประสานมา หรือมีการพูดคุย ก็ต้องอยู่บนหลักการรัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนในเรื่องของมาตรา 112 ว่า จะไม่ผลักดันต่อ และอาจจะมีเงื่อนไขเรื่องอื่นๆ อีก เช่น การทำงานร่วมกันในอนาคต นโยบายอะไรที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ทุกคนต้องคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก
“พรรครวมไทยสร้างชาติเรามีแค่ 36 เสียง คงไม่ได้อยู่ในสถานะที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยรวมไปถึงถ้าในที่สุดมีการพูดคุยกันแล้ว เชิญไปร่วมรัฐบาล ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเงื่อนไขก็อยู่บนหลักการทั้งหมด ไม่มีเรื่องการเจรจาต่อรองตำแหน่ง หรือมาลงรายละเอียดในเรื่องบุคคลแน่นอนว่าต้องเป็นคนนั้นหรือเป็นคนนี้ตามข่าวลือ ขอปฏิเสธไม่เป็นความจริง” นายเอกนัฏกล่าว
@ยังไม่ชัด โหวตก่อน คุยทีหลัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะโหวตนายกรัฐมนตรีให้ก่อนหรือไม่แล้วไปคุยกันทีหลัง ตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอแนวทางนี้ นายเอกนัฏ กล่าวว่า การโหวตหรือไม่โหวตต้องดู เงื่อนไขและผลของการพูดคุยก่อน สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติถ้าจะให้เราก็พร้อมให้ได้หมดไม่ได้ติดใจเรื่องของกระทรวงหรือรายละเอียดเรื่องบุคคล แต่หลักการมันต้องชัดเจนต้องคุยกันก่อน และยืนยันในหลักการให้ชัดเจนก่อนถึงวันนั้น สำหรับบางพรรคกว่าจะตกลง กว่าจะตกผลึกสรุปกันได้ต้องลงรายละเอียดถึงเรื่องกระทรวงว่าอยู่กระทรวงไหน แต่ของพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ที่หลักการ ที่กำหนดไว้
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าต้องโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ก็ต้องมาคุยกัน อยู่ที่พฤติกรรมของคน ยังยืนยันชัดเจนไหมว่า จะไม่ผลักดันในเรื่องมาตรา 112 และอาจจะมีมากกว่านั้นคือภารกิจแรกที่ร่วมกันทำ มาตรฐานของรัฐบาล เช่น เรื่องความโปร่งใสจะเป็นอย่างไร ต้องวางกฎกติกาไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะคบกัน ก่อนจะคบกันมันต้องคุยกันก่อนว่าเป็นอย่างไร
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาเป็นประธานการประชุมสส.พรรคภูมิใจไทย โดยก่อนการประชุมนายอนุทิน ได้แวะทักทายสื่อมวลชน พร้อมหยิบขนมไข่ของสื่อมวลชนขึ้นมารับประทาน ทำให้สื่อแซวว่า “กินขนมไข่จะไปกระทรวงพาณิชย์หรือ หรือถ้าติดคอต้องไปกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่” โดยนายอนุทินได้ตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดีว่า “ไปกระทรวงวัฒนธรรมจะได้รำเข้าไป” พร้อมทั้งท่ารำประกอบ
จากนั้น นายอนุทิน ได้สอบถามสถานการณ์การเมืองกับสื่อมวลชน สื่อมวลชนจึงย้อนถามกลับไปว่านายอนุทิน ได้ระบุวันที่จะนัดพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยในการแบ่งโควต้ารัฐมนตรีหรือยัง นายอนุทิน จึงตอบกลับมาว่า “ยังไม่ได้นัดเลย”
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยได้โควต้ารัฐมนตรีจำนวนเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า โควต้าน่าจะได้ 4+4
เมื่อถามย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยอยากได้กระทรวงใด นายอนุทิน ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยเตรียมบุคคลที่จะ รับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 แล้วหรือยัง หากเกิดกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน นายอนุทิน กล่าวว่า นายปดิพัทธ์ยังไม่ได้ลาออกเลย ต้องดูก่อนเพราะมีเขียนอยู่ในข้อบังคับ
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาประท้วงบริเวณหน้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทยเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่ายังไม่พบว่ามีความเสียหายอะไร มีแค่กาวดักหนูติดอยู่ที่ป้ายชื่อพรรค