‘ธนกร วังบุญคงชนะ’ รับกับสื่อ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ชวนร่วมรัฐบาล เผยต่อรองให้มาทั้งพรรค ยันยังไม่ตัดสินใจ โยนหัวหน้า-เลขาฯตัดสินใจ ด้าน ‘พีระพันธุ์’ ย้ำจุดยืนโหวตนายกฯของ รทสช. ต้องมีมติพรรคก่อน ก่อนระบุ ‘เศรษฐา-แพทองธาร’ ต้องเคลียร์จุดยืนแก้-ไม่แก้กฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) วันที่ 11 ส.ค.66 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและแกนนำพรรคเพื่อไทยในประเด็นเรื่องการเมือง โดยเฉพาะการชักชวนให้มาร่วมรัฐบาลจริง โดยคุยกันว่า ถ้ามาก็ต้องมาทั้งพรรค เป็นการส่งสัญญาณมาทางที่ตนเอง แต่ไม่ได้อยู่ในวงเจรจาของพรรค คนที่จะเจรจาคือหัวหน้าพรรค (พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค)ส่วนตัวจึงทำได้แค่ส่งสัญญาณให้พรรคทราบว่าทิศทางการเมืองเป็นแบบนี้
ส่วนการตัดสินใจทางพรรครวมไทยสร้างชาติอาจมีการประสานงานกันอยู่แล้วแต่ตนไม่ทราบ เพราะหัวหน้าพรรคยังไม่ได้บอก ซึ่งนายสมศักดิ์ก็ไม่ได้บอกว่าคุยกับหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (เอกนัฎ พร้อมพันธุ์) หรือไม่ แต่เท่าที่ดูมีสัญญาณที่ดี และเชื่อว่าการเมืองใกล้ถึงจุดที่จะจบแล้ว เท่าที่ดูบริบทต่างๆคิดว่าอีกไม่นาน คงจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเวลาที่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีเงื่อนไขอะไรในการจะร่วมรัฐบาลเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี นายธนกร กล่าวว่ารวมไทยสร้างชาติมีการทำงานในสภาของสส.36 คนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล พรรคเราทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว
ส่วนการเจรจาต่อรองต่างๆคงจะไม่มีเพราะทำงานได้อยู่แล้วเพราะเรามีแค่ 36 คนไม่ใช่มีเป็น100 คน มีการพูดคุยกันแต่คงไม่ได้ไปต่อรองอะไร ย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติพรรคหากจะออกมาเป็นอย่างไร ส.สทั้ง 36 คนพร้อมทำตาม แม้ว่าวันนี้อาจจะมองว่ามีปัญหาอะไรในพรรคหรือไม่มีการแบ่งเป็นกลุ่มๆ นั้นเพราะมาจากหลากหลายความคิดเห็นแตกต่างก็เป็นเรื่องปกติแต่เชื่อว่าคุยกันได้หมด
@ไม่มีปัญหากับ ‘ประยุทธ์’
ทั้งนี้ ส่วนตัวหากมีปัญหาอะไรแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมจะไม่ยุ่งและเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว เลิกก็คือเลิกเลย แต่ในฐานะส่วนตัวก็ยังไปปรึกษาในหลายเรื่อง เพราะก็อยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ มานานแม้ว่าเลิกเล่นการเมืองไปก็ตาม ในอนาคตทางการเมืองของตนก็ยังมีการปรึกษาทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน ไม่ได้มีปัญหาอะไรและพล.อ.ประยุทธ์ ได้แนะนำในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทุกครั้งที่พูดไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนท่านจะให้นึกถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก นึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ท่านพูดแบบนี้ตลอด
เมื่อถามว่าหากจะเข้าร่วมรัฐบาลถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรค 36 คนไม่มีงูเห่าใช่หรือไม่ นายธนกร ยืนยันว่าตนมั่นใจว่าไม่มีถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรคเพราะการเมืองมันควรเป็นอารยธรรมทางการเมืองที่ดี แม้ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ควรที่จะมีงูเห่า งูจงอาง อะไรแล้ว
@พท.น่าจะคุยทุกพรรค
ส่วนมองอย่างไร กับกรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชรและแกนนำพรรคพลังประชารัฐออกมาแถลงข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ จะร่วมโหวตให้กับพรรคเพื่อไทย เป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมืองตัดหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า คิดว่าคงเป็นความชัดเจน ตนเข้าใจว่ามีการเจรจาหารือกันอยู่แล้วไม่ว่าจะตอบแบบให้หล่อให้สวยยังไงสื่อก็จะทราบดีอยู่แล้ว คงไม่ไปก้าวล่วงของพรรคพลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการตั้งรัฐบาลควรจะมีความชัดเจนก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่า ทุกอย่างมันคงจะต้องจบก่อนโหวตนายกฯ การเจรจาไม่ว่าจะแสดงออกมาในภาพฉากทัศน์ไหน แต่ลึกๆ สื่อก็ทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีการเจรจากันก่อน เพราะฉะนั้นมันจะไม่จบ แต่ถ้ามีการคุยนอกรอบก่อนและเจรจาจบแล้ว ทุกอย่างก็จะจบตามกระบวนการเท่านั้นเอง
@ต้องเห็นใจ ‘เพื่อไทย’
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยประกาศสลายขั้วเพื่อตั้งรัฐบาลพิเศษนั้นมองอย่างไรเพราะเพื่อไทยยังมีพูดคุยกับพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย นายธนกร ระบุว่า ตนคิดว่าวันนี้ก็ต้องเห็นใจพรรคเพื่อไทยด้วยเพราะมีข้อจำกัดหลายอย่างส่วนตัวมองว่ามันอาจจะถึงเวลาที่สีต่างๆที่หลากหลายความขัดแย้งต่างๆควรจะยุติได้แล้วและไม่ว่าพรรคไหนควรจะร่วมกันบริหารประเทศและมีฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลนำสิ่งที่ดีๆที่พลเอกประยุทธ์วางรากฐานไว้ไปต่อยอด ตนจึงคิดว่าสถานการณ์การเมืองหากนิ่งเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 15 ล้านคนตามเป้าหมายที่พล.อ.ประยุทธ์วางไว้จึงเชื่อว่าโครงการต่างๆที่วางรากฐานไว้จะสร้างความเจริญให้กับประเทศมากหากการเมืองนิ่งๆและวันนี้พรรคก้าวไกลก็ต้องยอมรับในกระบวนการ ไม่ใช่ว่าเสียงข้างมากได้มากที่สุดแล้วจะได้เป็นนายกฯ ถ้าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องเป็นอันดับ 2 ไปเป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ ตามกติกาสากลทั่วไป วันนี้อีกพรรคต้องเป็นรัฐบาล และอีกพรรคก็ต้องเป็นฝ่ายค้านเพื่อถ่วงดุลการบริหารประเทศ ส่วนตัวคิดว่าบางพรรคก็เหมาะที่จะเป็นฝ่ายค้านเพราะมีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบเพราะฉะนั้นจะทำให้การเมืองมีความเข้มข้นมากขึ้นและเป็นระบบการถ่วงดุลประเทศจะได้เดินหน้าไปอย่างมั่นคง
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
@’พีระพันธุ์’ เผย ‘เพื่อไทย’ ยังไม่ติดต่อมา
ต่อมา ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการดึงพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาพูดคุยเจรจา หากมีการติดต่อมาเพื่อขอเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยก็จำเป็นต้องคุยกันในพรรคก่อน รวมถึงต้องดูว่า มีพรรคใดเข้ามาร่วมรัฐบาลบ้าง และนโยบายของแต่ละพรรคเป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรารับได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แสดงท่าทีในลักษณะไม่ปิดประตูให้พรรครวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาล นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า อยู่ที่พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะเชิญใครเข้าร่วมทำงานบ้าง ไม่ได้อยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติแต่อยู่ที่พรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยจะต้องรอที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้เป็นมติพรรคหรือไม่ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า การจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล สส.พรรครวมไทยสร้างชาติก็ต้องร่วมประชุมสภาฯ เพื่อโหวตอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่า คนที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้นมีทัศนคติ และนโยบาย รวมถึงแนวทางเป็นอย่างไร อีกทั้งมีพรรคการเมืองที่เรารับไม่ได้เกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนเรื่องการร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
@’เศรษฐา-แพทองธาร’ ต้องเคลียร์จุดยืน 112 ก่อน
เมื่อถามว่าเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมสนับสนุนหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า คงต้องถามความชัดเจน เรื่องการแก้ไข ม.112 ก่อน เพราะ นายเศรษฐา เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะแก้ไข เช่นเดียวกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะนำนโยบายบางอย่างจากพรรคร่วมเดิม คือพรรคก้าวไกล มาดำเนินการด้วย
เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลร่วมสนับสนุนนายเศรษฐา แต่ไม่เข้าร่วมรัฐบาล แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติจะร่วมโหวตด้วยหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องเป็นมติพรรค
@ย้อนสัมพันธ์ ‘ธนกร - สมศักดิ์’
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายธนกร วังบุญคงชนะ เริ่มต้นเข้าสู่วงการเมืองร่วมกับ ‘กลุ่มมัชฌิมา’ ที่นำโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน โดยปี 2553 เคยนั่งเก้าอี้ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.สาธารณสุข (เป็นผู้ช่วย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข น้องสาว สมศักดิ์ เทพสุทิน) สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
จากนั้นบทบาทของนายธนกรเงียบหายไปเมื่อรัฐบาลผลัดใบเข้าสู่ยุคนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตร ก่อนจะกลับมามีบทบาทอีกครั้งภายหลังการรัฐประหารปี 2557 โดยกลับมานั่งเก้าอี้ที่ปรึกษารองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 2 (นายพีระศักดิ์ พอจิต) กระทั่งช่วงปี 2561 มีการฟอร์มทีมของ ‘กลุ่มสามมิตร’ นำโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จนนำไปสู่การตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในเวลาต่อมา