พรรครวมไทยสร้างชาติ ดีเดย์ปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ทั้ง 36 คน ‘ประยุทธ์’ ไม่ทราบพรรคมีมติเลือกปธ.สภาอย่างไร ชี้มาเน้นย้ำการทำงานในอนาคต ก่อนปลุกใจสมาชิกทำงานและลงพื้นที่ต่อไป มี4.7 ล้านเสียงในมือแล้ว ด้าน ‘เอกนัฎ’ ยันชัดไม่โหวตประธานรัฐสภา-นายกฯจากพรรคก้าวไกล
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 27 มิถุนายน 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า การประชุมปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ของพรรค เป็นการสรุปบทบาทของ ส.ส.ในระยะต่อไป หลังจากการเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 ก.ค. 2566 นี้ เป็นการพูดถึงอนาคตมากกว่าว่า จะเดินหน้าพรรคไปในทิศทางใดต่อไป
แนวทางของพรรคจะต้องรักษาไว้ซึ่งกระบวนการประชาธิปไตย เมื่อเดินหน้ามาทางนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่ต้องว่ากัน ส่วนการโหวตประธานรัฐสภา ไม่ทราบ ขณะที่มติพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อแข่งขันประธานรัฐสภา ก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า คุณสมบัติของประธานรัฐสภาต้องมีลักษณะอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็เป็นเรื่องของกระบวนการว่ากันไป ซึ่งในที่ประชุมพรรควันนี้ ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้
@ติว 36 ส.ส. มี 4.7 ล้านเสียงในมือ ทำงานเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ส.ส.ของพรรค พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนขอแสดงความยินดีกับ ส.สใหม่ ส.ส.เดิมทั้ง 36 คน ถือว่าเป็นการสืบสานรักษาแนวทางของพรรคที่ตั้งใจจะเป็นสถาบันพรรคการเมืองที่เข้มแข็งและในทางที่ถูกต้อง ตนเชื่อว่า วันนี้ผู้ที่เคยเป็นส.ส ทุกคนรู้ปัญหาในการทำงานอยู่แล้ว จึงต้องมาพิจารณาแนวทางทำงานต่อไป
“จนถึงวันนี้ ผมยังคงส่งใจให้ทุกคน ทั้ง ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้ง และ ผู้ที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส.ขอให้อย่าเสียใจ เพราะครั้งนี้พรรคได้คะแนนเสียงจากคนที่รัก และชื่นชอบแนวทางการทำงานของเรามามากพอสมควร แม้ครั้งนี้จะไม่สำเร็จ แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าก็ยังมีขอให้มุ่งมั่นในแนวทางการทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์ระบุตอนหนึ่ง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า แม้วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ มี ส.ส.เพียง 36 คน แต่มีคะแนนนิยมกว่า 4.7 ล้านเสียง จึงอยากให้ทุกคนนึกถึง คะแนนเสียงเหล่านี้ที่ให้กับพรรคมา อยากจะขอให้ทุกคนที่เป็นส.ส.รวมทั้งสมาชิกพรรค ทียังไม่ได้เป็นส.ส.อย่าทิ้งประชาชน ขอให้ลงพื้นที่พบปะ พูดคุยรับฟังปัญหาและแนวทาง เพื่อนำมาใช้ในการทำงานช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น จึงขอให้รักกันจับมือให้มั่น เดินหน้าต่อไป ตอนนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคที่มีขนาดกะทัดรัดกำลังดี เหมือนเด็กกำลังโต จึงต้องเรียนรู้ที่จะโตขึ้นต่อไป และทำให้ดีกว่าเดิม
“สิ่งสำคัญคือ ขอให้รักษาอุดมการณ์ในการรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และอย่าทิ้งประชาชน เข้าไปทำงานในสภาฯก็ขอให้เน้นเรื่องเนื้อหา ของท้องที่ที่ทุกคนเป็นตัวแทนมา มากกว่าการเข้าไปทำการเมือง ผมอยากให้คนที่ได้เป็นส.ส.อภิปรายเนื้อหา และปัญหา ที่เป็นประโยชน์ ต่อชาติบ้านเมือง ไม่ใช่แค่มุ่งเข้าไปเล่นการเมืองเท่านั้น และอยากจะให้ทุกคนอยู่กันด้วยความสบายใจ และสงบเรียบร้อย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@คณะโฆษกพรรคนัดแถลง 30 มิ.ย.นี้
ด้านนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารรรคมีมติตั้งนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เป็นโฆษกพรรค ส่วนรองโฆษกพรรคมีทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นางสาวรัดเกล้า สุวรรณคีรี, นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ และนายชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา ซึ่งคณะโฆษกจะนัดหมายสื่อมวลชน เพื่อแถลงข่าวในวันศุกร์นี้ (30 มิ.ย. 66) เวลา 10.00 น.
ส่วนที่บอกว่า พร้อมจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านนั้น ไม่ได้สื่อสารแบบนั้น เพียงแต่ต้องการสื่อสารว่า จะเป็นการเริ่มต้นภารกิจใหม่ แม้การเลือกตั้งจะจบไป แต่ยังมีหลายเรื่องที่ต้องทำทั้งในและนอกสภา ขณะที่การเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ส.ส.ทุกคนพร้อมทำหน้าที่ทั้งสองด้าน
@ปักธงโนโหวตปธ.สภา-นายกฯจาก ‘ก้าวไกล’
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยเรื่องการโหวตประธานรัฐสภาหรือไม่ นายเอกนัฎตอบว่า ขอรอดูการประชุมในวันที่ 4 ก.ค.นี้ก่อน ส่วนจะฟรีโหวตหรือไม่ คงเป็นมติพรรคมากกว่า โดยพรรคยืนยันว่า จะไม่สนับสนุนรัฐบาลที่แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112
เมื่อถามอีกว่า หากมีพรรคใดเสนอชื่อแข่งกับพรรคก้าวไกล ก็จะลงคะแนนให้พรรคนั้น ไม่ใช่ตัวแทนประธษนรัฐสภาจากพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ นายเอกนัฎตอบว่า ยังไม่ไปถึงตรงนั้น แต่ยืนยันว่า พรรคเราคงไม่โหวตประธานรัฐสภาจากพรรคก้าวไกล และรวมไปถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ก็จะไม่โหวตด้วย
ส่วนการเสนอชื่อประธานรัฐสภาจากขั้วรัฐบาลเดิม ตอนนี้ยังไม่มี และพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ส่งคนมาขอคะแนนแต่อย่างใด และยังไม่มีใครมาพูดคุยอะไรกับพรรค