ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ยกฟ้อง 'สุทธิพงษ์ จุลเจริญ' ปลัดกระทรวงมหาดไทย พูดด้อยค่าผู้ใต้บังคับบัญชาในที่ประชุม ชี้ ‘สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์’ ผู้ฟ้อง ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง เจ้าตัวลุยต่อเตรียมยื่นอุทธรณ์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 6/2566 ระหว่าง นายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ โจทก์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ จำเลย ข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นกรรมการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรมและเป็นกรรมการป้องกันและจัดการปัญหาข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางออนไลน์ ตามประกาศของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จำเลยรับราชการตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลากลางวัน จำเลยกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ได้กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายด้วยถ้อยคำด้อยค่ามหาวิทยาลัยสยาม ในที่ประชุมผ่านจอภาพในระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย จำเลยได้กล่าวในที่ประชุม 'มึงจบอะไรมาวะ' เจ้าหน้าที่ ตอบว่า รัฐศาสตร์จุฬาฯ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จำเลยพูดว่าโง่เป็นควายเข้าปีอะไร และได้รับ คำตอบว่า ปริญญาโท ซึ่งจำเลยพูดว่า 'กูว่าแล้ว' จบปริญญาตรีที่ไหน เจ้าหน้าที่ตอบว่ามหาวิทยาลัยสยาม จำเลยพูดว่า 'โอ กูว่าแล้ว' การกระทำของจำเลยเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์หรือผู้หนึ่งผู้ใดโดยคำพาดพิงถึงมหาวิทยาลัยสยามมีนัยสำคัญอาจทำให้ บุคคลอื่นเข้าใจว่าระบบการเรียนการสอนมีมาตรฐานต่ำ บุคลากรจะไม่มีคุณภาพ กับพูดจาดูหมิ่นผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างร้ายแรงด้วยวาจาหยาบคายทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกด้อยค่าในสายตาผู้อื่นอันเป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เหตุเกิดที่กระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ แขวงราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1)
ศาลพิเคราะห์คำฟ้อง เอกสารประกอบฟ้อง เอกสารที่ศาลเรียกมาจากกระทรวงมหาดไทย รายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหลักฐานของเจ้าพนักงานคดี ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์เป็นกรรมการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม และกรรมการป้องกันและจัดการปัญหาข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางออนไลน์ตามประกาศของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จำเลยรับราชการตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย สังกัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 กระทรวงมหาดไทยจัดประชุมผ่านจอภาพในระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้บริหารระดับสูง ของกระทรวงมหาดไทย เพื่อกำหนดแนวทางให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวนโยบาย
คดีมีปัญหาว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงแห่งคดีเกิดขึ้นในที่ประชุมด้วยระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ของกระทรวงมหาดไทยโดยจำเลยซึ่งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ร่วมกับข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ในตอนหนึ่งจำเลยกล่าววาจาเสียดสี ไม่สุภาพ หยาบคาย ต่อข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่ง จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสยาม และกล่าวพาดพิงมีนัยสำคัญที่อาจทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยสยามผลิตบุคคลากร โดยไม่มีคุณภาพ เห็นว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของจำเลย คือข้าราชการที่ถูกจำเลยกล่าววาจา ดูหมิ่นเหยียดหยาม และมหาวิทยาลัยสยามที่ถูกจำเลยกล่าวพาดพิงถึงในลักษณะที่อาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าระบบการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยด้อยคุณภาพ บุคคลทั้งสองจึงเป็นผู้เสียหาย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1)