พนักงานสอบสวนอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องอุปกิต 3 ข้อหา เป็น ส.ว.มีพฤติกรรมเอี่ยวอาชญากรรมข้ามชาติ-ฟอกเงิน นัด 26 ก.ค.ฟังคำสั่ง อสส.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) เปิดเผยเพนักงานสอบสวนที่อัยการสูงสุดมอบหมาย มีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานความผิดหลายข้อกล่าวหา ดังนี้
-เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและ ร่วมกันฟอกเงิน
-เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่ สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
-มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) ได้นำตัวนายอุปกิตพร้อมกับสำนวนการสอบสวน มาส่งให้กับสำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดีต่อไปแล้วสำนักงาน คดียาเสพติด ได้นัดฟังคำสั่งอัยการสูงสุด ในวันที่ 26 ก.ค.
มีรายงานว่าในวันเดียวกันนี้ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานร่วมสอบสวนเเละคณะพนักงานสอบสวน บช.ปส.3 (กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3) ได้นำตัวนายอุปกิตพร้อมสำนวนการสอบสวน ที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องกว่า 79 เเฟ้มมายื่นด้วยตนเอง
สำหรับคดีนี้ นายอุปกิต ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์พัวพันกับขบวนการยาเสพติดและการฟอกเงินกับนายทุน มิน ลัต ชาวเมียนมา ที่ถูกตำรวจไทยจับเรื่องในเรื่องเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2565 ซึ่งอำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุดซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในความผิดนอกราชอาณาจักรตาม ป.วิอาญามาตรา 20 จึงมอบหมายให้สำนักงานอัยการสอบสวนกับ บช.ปส.3 ร่วมกันเป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งคณะพนักงานร่วมสอบสวนได้ทำการสอบสวนในหลายประเด็น รวมถึงประเด็นที่มีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาก่อนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง เสนอไปยังอัยการสูงสุดผ่านทางสำนักงานอัยการคดียาเสพติดเพื่อพิจารณามีคำสั่งทางคดีต่อไป