ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จ.ภูเก็ต เปิดปฏิบัติการปราบปรามค้ามนุษย์ ทลายบาร์ แฝงค้าบริการเด็ก กลางป่าตอง จ. พบเด็กสาวถูกนำมาค้าบริการทางเพศในร้าน ถึง 6 คน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครองนำกำลังฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบ ร้าน Velvet ตั้งอยู่บริเวณ Bangla Walking Street หาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจาก มูลนิธิ Operation Underground Railroad (O.U.R) (ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศทำงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์) ว่า บาร์แห่งนี้เปิดเป็นบาร์สำหรับนักท่องเที่ยว แต่มีการแอบแฝง นำเด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายตัวให้แก่ลูกค้าชาวต่างชาติ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ได้ส่งสายลับ ลงพื้นที่เข้าทำการสืบสวน ร้านดังกล่าว พบว่ามีการแอบแฝงการขายบริการทางเพศเด็ก จริง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์
หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ได้ส่งสายลับ ลงพื้นที่เข้าทำการสืบสวน ร้านดังกล่าว พบว่ามีการแอบแฝงการขายบริการทางเพศเด็ก จริง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ โดยได้วางแผนประชุมร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต และมูลนิธิ Operation Underground Railroad (O.U.R) เพื่อเข้าดำเนินการตรวจสอบ และช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยเริ่มจากการส่งสายลับเข้าไปเพื่อพิสูจน์ความผิด และพบว่าร้านดังกล่าวมีการกระทำความผิดฐานการค้ามนุษย์จริง จึงได้แจ้งให้ชุดจับกุมทราบ เพื่อเข้าดำเนินการตรวจสอบ โดยได้แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด
ชุดแรก เข้าดำเนินการตรวจสอบ ร้าน Velvet ซอย Sea Dragon ถ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบ น.ส. ทักษกร (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้ำ แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน และพบ น.ส.วัชราภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ ยูกิ เป็นนายหน้าจัดหาเด็กมาขายบริการทางเพศ จากการตรวจสอบพบว่า นอกจากมีการแฝงขายบริการทางเพศเด็ก แล้วทางร้านยังเปิดสถานบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกด้วย จึงได้ทำการจับกุมตัว ทั้ง 2 คน ไปดำเนินคดี ตั้งข้อหา ความผิดฐานค้ามนุษย์ (แสวงหาประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบจากเด็ก) และตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนชุดที่สอง เจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าทำการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ภายในโรงแรมบริเวณใกล้เคียง สามารถช่วยเหลือเหยื่อได้จำนวนทั้งสิ้น 6 คน ซึ่งพบว่า คนที่มีอายุน้อยที่สุด อายุ เพียง 15 ปี เท่านั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้พาตัวไปเข้าสู่กระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ National Referral Machanism (NRM) สัมภาษณ์เพื่อคัดกรอง และคัดแยก โดยสหวิชาชีพ ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต และเตรียมนำตัวส่งเข้าบ้านพักเด็กฯ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ จากการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามุษย์ ต่อไป
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เปิดเผยว่า ปัญหาการค้ามุษย์ เป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ ซึ่งอาจกระทบถึงเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ ของไทย รวมไปถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน จึงถือเป็นปัญหาที่ต้องร่วมกันช่วยแก้ไข กรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลทุกข์ สุข ของประชาชน เร่งดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ยกระดับการจัดลำดับสถานการณ์การแก้ไขการค้ามนุษย์ของประเทศไทย จาก Tier 2 watchlist เป็น Tier 1 ให้ได้ต่อไป
นายณรงค์ กล่าวว่า จากการลงเก็บข้อมูล เบื้องต้นไม่คิดว่าจะเจอเด็กมากถึง 6 คน จึงมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยในพื้นที่ ทั้งฝ่ายปกครองจังหวัด และฝ่ายปกครองอำเภอกะทู้ ลงพื้นที่สถานบริการดังกล่าว ตรวจสอบพบว่า ยังไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และพบผู้แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้าน (แม่เลาจ์) นอกจากนี้ยังพบเด็กที่มีการนำมาค้าบริการในลักษณะของการซื้อชั่วโมง ซึ่งชัดเจนว่า เป็นการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กโดยมิชอบ เข้าข่ายความผิดค้ามนุษย์ ซึ่งไม่ใช่การค้าประเวณีทั่วไป ซึ่งมีอัตราโทษที่สูงมาก และจะเข้าสู่กระบวนการ NRM โดยจะมีการคัดกรอง และเข้าสู่กระบวนการคัดแยกว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่ หากสหวิชาชีพยืนยันว่า เป็นการค้ามนุษย์ก็จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และทำการฝึกอาชีพ เพื่อจะได้ไม่กลับมาประกอบอาชีพดังกล่าวอีก ส่วนผู้ที่กระทำต่อเด็กจะมีอัตราโทษที่สูงมาก เพราะเข้าข่ายการเป็นธุระจัดหาค้าประเวณีเด็กด้วย นอกจากนี้ยังสืบทราบด้วยว่า เจ้าของเป็นต่างชาติซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะได้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง