ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศพบ 41 จังหวัด ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 'ภาคเหนือ' หนักสุด ส่วน 'ภาคใต้' อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ด้านกรุงเทพฯ 8 พื้นที่หนักสุด วัดได้ 30-66 มคก./ลบ.ม.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 12 มีนาคม 2566 ณ 07.00 น สรุปดังนี้ ภาพรวมปริมาณ PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐาน 41 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.ตาก จ.พิษณุโลก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.สิงห์บุรีจ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ราชบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.ชัยภูมิ จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา และ จ. บุรีรัมย์
โดยภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 70-182 มคก./ลบ.ม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 41-125 มคก./ลบ.ม.
ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 29-68 มคก./ลบ.ม.
ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 29-56 มคก./ลบ.ม.
ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 13-31 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 8 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 30-66 มคก./ลบ.ม.
สำหรับคำแนะนำทางสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์