‘ประยุทธ์’ โพสต์เฟซบุ๊ก สั่งกลาง ครม. เร่งติดตามความคืบหน้า 4 ประเด็นสังคม ‘เรือสุโขทัย-ตู้ห่าว-บอส อยู่วิทยา-ครูหมิ่นป๋าเปรม’ จี้ต้องรายงานความคืบหน้าทุกๆ 15 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 27 ธันวาคม 2565 เพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha โพสต์ข้อความว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (27 ธ.ค.65) ได้ติดตามความคืบหน้าข้อสั่งการและนโยบายต่างๆ ทั้งเรื่องพลังงานที่จะต้องมีมาตรการดูแลในระยะสั้นและระยะยาว เรื่องค่าครองชีพของประชาชนทุกกลุ่มที่ได้ผลกระทบจากโควิดและความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก
และในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ เร่งติดตามความคืบหน้า สืบสวน และสอบสวน ตลอดจนดำเนินการให้เกิดความชัดเจน ในประเด็นสำคัญที่มีผลต่อความรู้สึกของประชาชน แล้วรายงานผลความคืบหน้าหรืออุปสรรค ให้นายกรัฐมนตรีทราบ ทุก 15 วัน ได้แก่
1. กรณีเรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุอับปาง : เน้นย้ำให้กองทัพเรือระดมสรรพกำลังค้นหากำลังพลที่สูญหายอย่างเต็มที่ และให้ความช่วยเหลือเยียวยากำลังพลและครอบครัวที่ประสบเหตุ บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือสูญหาย อีกทั้งเร่งตรวจสอบสาเหตุให้ได้ข้อเท็จจริงชัดเจนโดยเร็ว
2. กรณีครูโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย มีพฤติกรรมจาบจ้วงบุคคลสำคัญด้วยข้อความที่เป็นเท็จ : ได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง การปลูกฝังข้อมูลที่เป็นเท็จให้นักเรียน จนก่อให้เกิดความเกลียดชัง หรือขัดแย้งในสังคม และดำเนินการตามระเบียบ/กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3. กรณีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ต้องคดีข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ แล้วหลบหนีไป : ขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนทุกท่านทราบว่า ยังคงติดตามความคืบหน้าของคดีนี้อยู่ตลอดเวลา โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งติดตามผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี และตรวจสอบเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง สำหรับนำตัวมาดำเนินคดี เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและโปร่งใส โดยจะไม่ให้มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
4. กรณีการตรวจและจับกุมเครือข่ายกลุ่มทุนต่างชาติ ที่ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย (คดีเครือข่ายธุรกิจกลุ่มทุนจีนสีเทา) : สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบ และดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีน ได้แก่ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว กับพวก ซึ่งมีพฤติกรรมกระทำความผิดในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เร่งขยายผลไปสู่กลุ่มอาชญากรและผู้กระทำผิดกฎหมายรายอื่นๆ โดยจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องทุกรายโดยไม่มีข้อยกเว้น
สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับทั้ง 4 กรณีนี้ คือ การทำความจริงให้ปรากฎแก่สังคมอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข เพื่อความมั่นคงของประเทศ และเพื่อความอบอุ่นใจของประชาชนชาวไทยทุกคน ซึ่งเมื่อได้รับรายงานแล้ว จะนำมาแจ้งความคืบหน้าให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป