ครม.รับทราบการเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงสาธารณรัฐคาซัคสถาน จากกรุงนูร์-ซุลตัน เป็นกรุงอัสตานา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 27 ธ.ค. 2565 ได้รับทราบการเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงของสาธารณรัฐคาซัคสถาน จากกรุงนูร์-ซุลตัน (Nur-Sultan) เป็นกรุงอัสตานา (Astana) และรับทราบการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปลี่ยนชื่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนูร์-ซุลตัน เป็นสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงต่อไป
สำหรับความเป็นมาของเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 ครม. เคยได้รับทราบการเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงของสาธารณรัฐคาซัคสถานจาก กรุงอัสตานา เป็นกรุงนูร์-ซุลตัน และกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อสถานเอกอัครราชทูตไทยให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา สาธารณรัฐคาซัคสถานได้มีการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปประเทศให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนคาซัคสถานมีความประสงค์ให้เปลี่ยนชื่อเมืองหลวงจากกรุงนูร์-ซุลตัน กลับไปเป็นกรุงอัสตานา ดังเดิม ซึ่งประธานาธิบดีคาซัคสถานมีดำริว่า เฉพาะชื่อเมืองหลวงเท่านั้นที่จะมีการกลับไปเป็นกรุงอัสตานา แต่ชื่อสถานที่อื่นๆ ที่ตั้งตามชื่อนายนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ อดีตประธานาธิบดี คนที่1 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเป็นผู้มีคุณูปการในการสร้างคาซัคสถานและเมืองหลวงของประเทศ
จากนั้น ได้มีการส่งคำร้องไปยังสภารัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐคาซัคสถาน เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าว ซึ่งสภารัฐธรรมนูญได้เห็นชอบคำร้องของเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงกลับไปเป็นกรุงอัสตานา และเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 65 ประธานาธิบดีคาซัคสถานได้ลงนามในกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อเมืองหลวง รวมทั้งมีหนังสือแจ้งคณะทูตทุกประเทศ ณ สาธารณรัฐคาซัคสถานทราบ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป