2 พรรคร่วมรัฐบาล ‘ปชป.-ภูมิใจไทย’ เผยท่าทีหลัง ‘ประยุทธ์’ ประกาศซบ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ‘จุรินทร์’ ชี้การเมืองยิ่งเข้มข้นหลังใกล้เลือกตั้ง เตือนนายกฯต้องระมัดระวังท่าทีหลังประกาศจุดยืนทางการเมือง โยนประชาชนตัดสินให้เข้าข้าง ‘บิ๊กป้อม หรือ บิ๊กตู่’ ด้าน ‘อนุทิน’ ยินดีที่นายกฯประกาศจุดยืน ก่อนเปรย ราชสีห์ของหนูคือประชาชน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 23 ธันวาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศความชัดเจนแล้วว่าจะไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า สถานการณ์ทางการเมืองมันเข้มข้นโดยธรรมชาติของมันอยู่แล้ว เพราะว่ากำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ไกลสุดก็สภาหมดวาระวันที่ 23-24 มี.ค. 2566 ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว
แต่กรณีท่านนายกฯ ที่จะไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น ก็เป็นกรณีที่เหมือนกับการเปลี่ยนสถานภาพของตัวท่านนายกฯ เพราะก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด แต่มาในฐานะของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าไปเป็นสมาชิกพรรคการเมือง สถานภาพก็อาจจะเปลี่ยนไปบ้าง เปลี่ยนไปจากที่เป็นอยู่เดิม ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่มันจะเกิดขึ้น
@เตือน ‘บิ๊กตู่’ ต้องระวังตัวเองมากขึ้น
ส่วนผลจะเป็นอย่างไร จะมีความเห็นอะไรตามมาอย่างไรนั้น ตนไม่สามารถคาดคะเนได้ แต่สิ่งหนึ่งที่พอเห็นภาพก็คือ ท่านก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างระมัดระวังขึ้น เพราะถ้าท่านสมัครสมาชิกพรรคเมื่อไหร่ ก็เท่ากับมีพรรคการเมืองสังกัด ที่มีความชัดเจนแล้วในทางการเมือง
@งง ตั้ง ‘พีระพันธุ์’ เลขานายกฯ ได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่ จากการที่ก่อนหน้านี้มีการตั้งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเลขาธิการนายกฯ ด้วย ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าได้เปรียบ เสียเปรียบอย่างไร แต่ว่าขอให้เป็นหน้าที่สังคมที่จะมีความเห็น หรือถ้าจะวิพากษ์วิจารณ์ก็ให้เป็นหน้าที่สังคม ส่วนตนไม่ขอวิจารณ์อะไรในส่วนนี้
@ปชป.โยนประชาชนตัดสิน ถือข้างใคร
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ก็จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ ดังนั้นภายหลังเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จะมีจุดยืนอย่างไร นายจุรินทร์ตอบว่า ประชาธิปัตย์ก็ชัดเจนว่า ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินก่อน ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร แล้วก็ถือหลักระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา เป็นหลักที่เรายืนหยัดมาตลอด ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นั่นคือ ใครรวมเสียงข้างมากได้คนนั้นก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยก็ไปเป็นฝ่ายค้าน
@ไม่ทราบตั้งรัฐบาลขั้วเดิมหรือไม่
ส่วนที่ถามถึง โอกาสที่พรรคร่วมเดิมจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในขั้วเดิมนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนคงตอบล่วงหน้าไปไม่ได้ เพราะประชาชนต้องตอบก่อน เราไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร พรรคการเมืองไหนได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร แล้วถ้าจะไปแบ่งขั้วนั้น มีกี่ขั้ว ขั้วไหนได้เท่าไหร่ อันนั้นขึ้นอยู่กับการรวมเสียงตอนจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้ก็คงแค่คาดเดากันไป แต่ข้อเท็จจริงต้องเกิดขึ้นตอนนั้น
@ราชสีห์ของ ‘หนู’ คือ ‘ประชาชน’
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ขณะปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดนครพนม กรณีพลเอกประยุทธ์ ประกาศจะเป็นแคนดิเดทนายกฯในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกพรรคถือเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่แข่งกันทำงานให้ประชาชน
เมื่อถามว่า หนูจะยังช่วยราชสีห์อยู่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ราชสีห์ของหนูวันนี้คือประชาชน”พร้อมย้ำว่าทุกพรรคคือ คู่แข่ง แข่งกันทำงานให้บ้านเมือง
อ่านประกอบ
‘ประยุทธ์’ รับเข้า ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ปัดจากลา ‘ประวิตร’ ความสัมพันธ์เหมือนเดิม