ดีเอสไอ-ป.ป.ท. นำทีมเจ้าหน้าที่ลุยสอบ นายอำเภอสารภี และเจ้าหน้าที่. ขยายผลคดีทุจริตปลอมลายเซ็น ปลัดอำเภอออกบัตรประชาชนปลอม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 เชียงใหม่นิวส์ รายงานถึงกรณี เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เขต 5 เดินทางไปที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เชิญ นายเลอยศ พุทธชิโนรสสกุล นายอำเภอสารภี รวมทั้งปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อขยายผลถึงขบวนการเครือข่าย และบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการทุจริตที่เกิดขึ้น
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ที่ปรึกษากรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ดีเอสไอ และ ป.ป.ท. ร่วมกันสอบสวนในคดีนี้ โดยขณะนี้ตรวจพบการมีเพิ่มชื่อในทะเบียนของอำเภอสารภี ที่เข้าข่ายมิชอบในช่วงปี 2565 จำนวน 59 ราย และอาจจะพบมากกว่านี้ และพบว่ามีการทำปลอมแล้วทั้งหมด 4 ราย
จากคำกล่าวอ้างของลูกจ้างคนดังกล่าว ได้ให้การในลักษณะตัดตอนว่าทำเพียงคนเดียวในการปลอมลายมือชื่อของปลัดอำเภอ และนำลายเซ็นของปลัดอำเภอ ที่เซ็นในเอกสารไว้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่การนำรายการข้อมูลและหลักฐานของบุคคล ที่ไม่มีความเคลื่อนไหวทางทะเบียน เช่น ผู้เสียชีวิต ผู้พิการ มาใช้ทำให้เชื่อว่าจะต้องมีบุคคลอื่นๆ เกี่ยวข้องร่วมขบวนการด้วย เชื่อว่าจะต้องมีมากกว่าหนึ่งคนที่ร่วมกัยนทุจริต ซึ่งหลังจากนี้ทาง ดีเอสไอ และ ป.ป.ท.จะร่วมกันขยายผล ทั้ง พยานหลักฐาน และเส้นทางการเงินของบุคคลที่อาจเกี่ยวข้อง ที่อาจเป็นไปได้ว่าจะมีความเชื่อมโยง กับขบวนการทุจริตบัตรประชาชนที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ที่มีการตรวจพบก่อนหน้านี้
โดยเบื้องต้นลูกจ้างคนดังกล่าว จะมีความผิดทั้งในส่วนอาญา และความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่มีสัญญาจ้างงานถือเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ ป.ป.ท.มีอำนาจเข้ามาสอบสวนเอาผิดได้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า คนที่มาสวมสิทธิทำบัตรประชาชน มีทั้งบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาทำธุรกิจ อาชญากรที่หนีหรือกำลังจะกระทำความผิด ที่ต้องการจะเปลี่ยนอัตลักษณ์ตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงและมีความผิดด้วย
ด้านปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายทะเบียนอำเภอสารภี บอกว่า จากการตรวจสอบพบว่าลูกจ้างคนดังกล่าว เป็นลูกจ้างสัญญาปีต่อปี ทำงานที่อำเภอมาประมาณ 5 ปี ส่วนการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น ตรวจพบหลักฐานด้วยว่า มีการซ้อมเซ็นลายมือชื่อของปลัดอำเภอมาหลายครั้ง จนปลอมได้อย่างแนบเนียน