กสม. ประสานการคุ้มครองสิทธิฯ ร่วมกับ กทม. กองบังคับการตำรวจจราจร และบริษัทเอกชน แก้ไขปัญหารถขนส่งสินค้าร้านสะดวกซื้อกระทบสิทธิผู้ใช้บริการรถประจำทาง ย้ำหลักการดำเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2565 นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กสม. และนายชนินทร์ เกตุปราชญ์ รองเลขาธิการ กสม. แถลงข่าวว่า กสม.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้รถโดยสารสาธารณะรายหนึ่งเมื่อเดือน ต.ค.2564 ระบุว่า ผู้ร้องอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ขณะที่รอรถโดยสารสาธารณะกลับบ้านบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอุดมสุข เขตบางนา กรุงเทพมหานคร มีรถขนส่งสินค้าของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง จอดขวางทางเดินรถโดยสารสาธารณะ ทำให้ประชาชนมองไม่เห็นรถโดยสารสาธารณะและต้องลงมายืนบนพื้นผิวจราจร ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ จึงขอความช่วยเหลือ
กสม. พิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่ากรณีนี้เกี่ยวกับสิทธิในการเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ ซึ่งได้รับการรับรองและคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และเห็นว่าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทำได้ด้วยการประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง จึงได้ดำเนินการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปยัง กทม. บริษัทต้นสังกัดของร้านสะดวกซื้อ และกองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหา
ต่อมาได้รับทราบว่า กทม.โดยสำนักงานเขตบางนา และกองบังคับการตำรวจจราจร ได้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานงานกัน พร้อมแจ้งไปยังบริษัทฯ โดยตรงเพื่อแก้ไขปัญหาการจอดรถขนส่งสินค้ากีดขวางป้ายหยุดรถประจำทางสาธารณะแล้ว ขณะที่บริษัทฯ ก็ได้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกับบริษัทขนส่งสินค้า โดยได้ปรับเปลี่ยนขนาดรถขนส่งสินค้าให้เล็กลงและปรับเวลาในการจัดส่งสินค้าเป็นช่วงเวลากลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาการจราจรหนาแน่นและป้องกันไม่ให้รถขนส่งสินค้าจอดกีดขวางป้ายหยุดรถประจำทางสาธารณะแล้ว
กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2565 จึงมีมติเห็นว่ากรณีดังกล่าวมีการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ร้องตามสมควรแล้ว จึงมีมติเห็นชอบผลการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
“การดำเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นอีกเรื่องที่ กสม. ให้ความสำคัญ โดยที่ผ่านมาได้ประสานความร่วมมือกับทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจดำเนินกิจการที่สอดคล้องตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) กรณีปัญหาที่เกิดขึ้น แม้จะดูเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่ก็สะท้อนว่าภาคธุรกิจจะต้องไม่ละเลย ต้องตระหนักถึงความสำคัญของหลักการดังกล่าว และร่วมแก้ไขปัญหาอย่างเข้าใจ”นายวสันต์กล่าว