หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ลุยศรีสะเกษ ประกาศฟื้นภารกิจแก้จนเกษตรกร สานต่อ ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ย้ำอยากพ้นหนี้ อยากหายจน อยากมีเงิน เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 มิถุนายน 2565 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และในฐานะหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เดินทางไปยังจ.ศรีสะเกษ เพื่อจัดกิจกรรม ‘ไล่หนู ตีงูเห่า’ พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนใน 3 เวที ใน 3 พื้นที่ คือ อ.อุทุมพรพิสัย อ.ราษีไศล และ อ.ขุนหาญ ซึ่งในจุดแรกที่ อ.อุทุมพรพิสัย จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 9 เขต
โดยนางสาวแพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า เวลาที่ครอบครัวเพื่อไทยไปที่ไหน สิ่งที่ให้กับประชาชนคือความจริงใจว่าเรามาเพราะอะไร เราพูดเรื่องอะไร และมาสื่อสารอะไร จริงๆแล้ว พรรคการเมือง สื่งที่สำคัญคือ การเลือกผู้สมัครมาลงในเขตต่างๆ เพื่อที่หากมีการเลือกตั้ง พี่น้องไว้ใจเราอีก เราจะได้เอาคนเหล่านั้นมาให้เลือกอีก มาทำให้ชีวิตพี่น้องดีขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะต้องจัดสรรคนที่จะลงสมัคร ส.ส. เพื่อที่จะดูแลคนไทยทั้งประเทศอย่างทั่วถึง
ส่วนการพาครอบครัวเพื่อไทยมา จ.ศรีสะเกษรอบนี้ ก็เพื่อมาบอกประชาชนว่า เราเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราเข้าใจดีว่า ด้วยทางเดินที่เดินมายาวนาน 20 ปี มีทั้งคนเข้าคนออก เข้าใจได้ และไม่ใช่ว่าออกจากพรรคเราไปแล้วต้องโกรธกัน หรือจะอะไรยังไง แต่นี่คือเวทีการเมืองที่สุดท้ายแล้ว ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่า เราเป็นประเทศของประชาธิปไตย สุดท้ายแล้ว ประชาชนจะเป็นคนบอกว่าชะตาประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไป
เน้นลงพื้นที่จนกว่าจะเลือกตั้ง
ส่วนทิศทางการดำเนินกิจกรรมของครอบครัวเพื่อไทยในระยะเวลาที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ นางสาวแพรทองธาร ระบุว่า ทุกคนจะทำงานกันแบ่งส่วนเรียบร้อย จะออกไปหาประชาชนให้ได้มากที่สุด ถ้ามีโอกาสตัวเองก็จะไปเอง หรืออาจจะส่งบุคลากรของพรรคไปสื่อสารกับพี่น้องว่า เราจะทำอะไรให้ประเทศชาติ ส่วนความถี่ในการจัดกิจกรรมจะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับโอกาสและพื้นที่ที่จะไปว่า สะดวกไหม เพราะแต่ละคน แต่ละพื้นที่ก็มีภาระหน้าที่กันอยู่ ก็จะประสานงานกันเรื่อยๆ
อุบตอบพร้อมนั่งนายกฯ
เมื่อถามว่า มีเสียงเรียกร้องให้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ขอบคุณมากๆ เพราะเป็นคอมเม้นท์ที่เป็นบวก แต่ตอนนี้คิดว่าพี่น้องประชาชนอดทนไม่ไหวแล้วกับภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา มันไม่ได้ทำให้เกิดข้อดีอะไรให้กับประเทศ และการรัฐประหารเมื่อปี 2557 สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศตอนนั้นก็ไม่ได้แย่ แต่คิดว่าพี่น้องก็รู้ว่า อยากให้ประเทศชาติดีขึ้นและก้าวไปข้างหน้า ฉะนั้น ครอบครัวเพื่อไทยจึงอยากแสดงจุดยืนว่า เราจะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะทำให้ประเทศชาติพัฒนาไปข้างหน้า นี่คือสัญญาณของประเทศเราที่จะต้องไปต่อให้ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ตัวนางสาวแพทองธารพร้อมที่จะเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ตอนนี้สิ่งที่พร้อมที่สุดคือการพบปะประชาชนและการยืนยันในจุดยืนของพรรคเพื่อไทยที่มีมาตลอดตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย อนาคตข้างหน้า ก็คิดเสมอว่าเราต้องหาคนที่เหมาะสมที่สุดเพื่อประชาชน
พ่อ-อา ทำคนมีกิน รัฐประหารทำพัง
ขณะที่บรรยากาศการปราศรัยบนเวทีในพื้นที่ อ.อุทุมพรพิสัย และ อ.ราษีไศล เป็นไปอย่าวคึกคัก โดยนายสาวแพทองธาร กล่าวปราศรัยว่า เมื่อ 18 ปีที่แล้ว นายทักษิณ ชินวัตร บิดาของตนและอดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางมาลงพื้นที่ ณ อ.อุทุมพรพิสัย ตอนนั้นพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล พี่น้องกำลังจะลืมตาอ้าปากได้ อนาคตของลูกหลานก็ดูมีแนวทางชัดเจน
“ตอนนั้นคุณพ่อ (ทักษิณ ชินวัตร) มีความฝันค่ะว่า ภายใน 3 ปี คำว่าคนจนจะต้องหมดไปจากแผ่นดินไทย ดิฉันเองเป็นลูกฟังแล้วรู้สึกว่า 3 ปีมันยากไหมนะ แต่แล้วก็เกิดการรัฐประหารปี 2549 เสียก่อน และเมื่อ 6 ปีที่แล้วอาของอิ๊ง (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) หลังถูกยึดอำนาจไป ท่านก็มาที่ศรีสะเกษเช่นกัน ท่านก็ได้มาคุยและรับฟังปัญหาของชาวนาโดยเฉพาะเรื่องของผลผลิตข้าว จะไม่ตัดสินใจซื้อข้าวจากชาวนาในราคาที่สูงกว่าตลาด เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่เดือดร้อนในขณะนั้น” นางสาวแพรทองธารกล่าว
นางสาวแพทองธารกล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่สำคัญของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด เราครอบครัวเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทยขออาสาดูแลชาวศรีสะเกษในทุกมิติ เพราะเราไม่เชื่อมือพรรคอื่นว่า จะสามารถทำให้เกิดขึ้นจริงเหมือนที่พรรคเราเคยทำ และวันนี้ที่มา ขอยืนยันว่า ครอบครัวเพื่อไทยยังมีหัวใจเดิมเหมือนวันแรกที่คุณพ่อได้สร้างครอบครัวนี้ เหมือนวันที่คุณอาชนะการเลือกตั้ง เหมือนวันที่เรามีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการทำให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้น
ขอโอกาสสานต่อภารกิจแก้จน
20 กว่าปีที่ผ่านมา เส้นทางของพรรคเราโดนยุบพรรค จำกัดสิทธิ์ สร้างพรรคใหม่ เวลาผ่านไปไวมาก ที่ผ่านมาในนามพรรคไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย มีโอกาสดูแลประชาชนแค่เพียง 8 ปีกว่าเท่านั้น ชีวิตตอนนั้นดูเป็นไปได้มากกว่านี้ แต่การรัฐประหาร 2 ครั้งในปี 2549 และปี 2557 ไม่มีอะไรดีขึ้นสำหรับพวกเราเลย ขณะที่ประเทศถูกแช่แข็ง ประเทศอื่นๆพัฒนากันไปมาก โดยเฉพาะนวัตกรรมทางการเกษตร ซึ่งตนขอโอกาสหากพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล จะนำนวัตกรรมเหล่านั้นมาช่วยพี่น้องเกษตรกรหายเหนื่อย มีผลผลิตที่สูงขึ้น ทำการเกษตรแม่นยำขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงดวงกับดินฟ้าอากาศเหมือนทุกวันนี้ เพราะพวกเราในที่นี้คิดเป็น ทำเป็น และทำสำเร็จ
“เรามีพลังของคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้เรื่องนวัตกรรมเหล่านี้เป็นอย่างมาก และเรามีพลังจากคนรุ่นเก่าที่เคยเป็นรัฐบาลให้พวกท่าน คนที่เคยนำเรื่อง 30 บาทมาถึงมือท่าน และนำอะไรมากมายมาถึงมือท่านทุกคนเราเคยทำมาแล้วและเราจะทำอีกแน่นอนถ้าพี่น้องให้โอกาสเรา” นางแพรทองธารกล่าวตอนหนึ่ง
ย้ำหมุด แลนด์สไลด์ ทั้งแผ่นดิน
ช่วงท้าย นางสาวแพทองธารทิ้งท้ายว่า เมื่อการเลือกตั้งมาถึง ถ้าพี่น้อง ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาทำให้ชีวิตของพี่น้องดีขึ้นอีกครั้ง บันไดขั้นแรกนั่นก็คือ ‘แลนด์สไลด์’ ต้องชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เราจะไม่ให้ใครมาปล้นอำนาจเราได้อีกแล้ว อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะอนุญาตให้พรรคเพื่อไทยและครอบครัวเพื่อไทย เข้าไปเปลี่ยนแปลงชีวิตพี่น้องและอนาคตของลูกหลาน อยากพ้นหนี้ อยากหายจน อยากมีเงินใช้ไปนานๆ เลือกทั้งพรรคทั้งคนจากพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ ในการปราศรัยดังกล่าว ได้มีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 9 เขต ประกอบด้วย นายธเนศ เครือรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต1 ศรีสะเกษ, นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2, นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 3, นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 4 ที่จะลงแทน นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่โหวตสวนมติพรรค, นายอมรเทพ สมหมาย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 5 ที่จะลงสมัคร แทนนายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ ที่โหวตสวนมติพรรค, นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 6, นายประวิทย์ จารุรัชกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 7, นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 8 แทนนางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ ที่โหวตสวนมติพรรค และ น.ส.วิลดา อินฉัตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 9