'วิโรจน์'ปราศรัยใหญ่ ย้ำใช้ยาแรง รื้อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม เพิ่มสวัสดิการสร้างเมืองให้คนเท่ากัน 'ธนาธร' ชู 3 เหตุผลต้องเลือกผู้ว่าฯ กทม.- ส.ก.ก้าวไกล 'ไอเติม' เชื่อ 22 พ.ค.สร้างอนาคตใหม่ให้คน กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2565 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) จัดปราศรัยใหญ่ ณ ลานอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน (วงเวียนใหญ่) โดยในครั้งนี้ได้เชิญ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า , น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า , นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล มาร่วมบนเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ด้วย
‘ไอติม พริษฐ์’เชื่อ‘วิโรจน์’สร้างอนาคตใหม่ให้ กทม.
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เหลือเวลาไม่ถึง 9 วันเราจะได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หลังจากไม่ได้เลือกมา 9 ปี และหากผู้ว่าฯกทม.ชื่อนายวิโรจน์ และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) สวมเสื้อก้าวไกล เราจะเติมเงินในกระเป๋าให้คน กทม.ทันที อาทิ เพิ่มสวัสดิการผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน สวัสดิการเด็กเล็กเป็น 1,200 บาทต่อเดือน สร้างที่พักอาศัยราคาถูก เดินรถนอกเส้นทาง ขสมก. นอกจากนั้นจะทำโรงเรียนใกล้บ้านให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับโรงเรียนสังกัดอื่น ทำให้การขอใบอนุญาตต่างๆผ่านช่องทางออนไลน์ และจัดสรรงบประมาณ 5% หรือ 4,000 ล้านบาทให้ คน กทม.เลือกทำโครงการด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามหลักสากลเพื่อให้ประชาชนร่วมตรวจสอบการใช้งบประมาณ
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องไม่ใช่เกมฟุตบอลที่จะลงแข่งด้วยความกลัวหรือความกังวล หรือปล่อยให้ใครมาเขียนสคริปต์ล็อกผลไว้ล่วงหน้า การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเป็นโอกาสการเปลี่ยนแปลงของคน กทม. ลุกขึ้นมาก้าวเข้าคูหาขีดเส้นทางอนาคตของเราเอง เมื่อไม่กี่ปีมาแล้วผู้คนลังเลว่าพรรคก้าวไกลที่มีแต่นักการเมืองหน้าใหม่จะทำอะไรได้บ้างกับการเมืองไทย แต่วันนี้เรามีคนจำนวนมากเชื่อมั่นพรรคก้าวไกล ถึงขั้นทำให้พรรคได้รับเงินบริจาคจากภาษีประชาชนเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ใครที่ยังลังเลว่า 22 พ.ค.เข้าคูหาจะกาเบอร์อะไร ขอให้ผู้คนเชื่อมั่นในการเลือกพรรคก้าวไกลทั้ง 2 ใบ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่อยากกาด้วยความหวังที่จะเห็นเมืองที่คนเท่ากัน คนทำงานที่อยากกาด้วยความเชื่อว่าแก้ปัญหาโครงสร้างและการจัดสรรงบประมาณ ผู้ประกอบการที่อยากกาด้วยความเหลือทนปัญหาส่วยที่บีบให้ต้องจ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือผู้มากประสบการณ์ที่อยากจะกาด้วยการท้าพิสูจน์ให้รู้แล้วรู้รอดไปว่าพรรคที่มีนักการเมืองหน้าใหม่จะทำได้ดีเหมือนที่พูดหรือไม่
“ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร มีความฝันแบบไหน ผมขอให้ นายวิโรจน์ และ ส.ก.พรรคก้าวไกลเป็นคำตอบของความต้องการของทุกคน และ 22 พ.ค.นี้ขอให้ทุกคนหยิบปากกาเลือกก้าวไกล 2 ใบ เพื่อสร้างอนาคตใหม่ของพวกเราชาว กทม.ทุกคน” นายพริษฐ์ กล่าว
‘ธนาธร’ ชู 3 เหตุผลเลือก ‘วิโรจน์’ - ส.ก.ก้าวไกล
ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิน ประธานคณะก้าวหน้า ปราศรัยด้วยว่า มี 3 เหตุผลที่ตนจะไปเลือกนายวิโรจน์เป็นผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.จากพรรคก้าวไกล คือ 1.นายวิโรจน์เป็นนักบริหาร ทำงานมากว่า 20 ปีในบริษัทเอกชนจากพนักงานจนตำแหน่งสุดท้ายเป็นระดับผู้อำนวยการ 2.นายวิโรจน์เป็นนักอุดมการณ์ มีความมุ่งมั่น แน่วแน่ เห็นได้จากผลงานที่ทำมาสมัยเป็น ส.ส.จนได้รับเลือกให้เป็นดาวสภา 3.พรรคก้าวไกลเกิดจากผู้คนที่ยังศรัทธา มีอุดมการณ์จากพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วว่าเป็นพรรคเพื่อต่อสู้เพื่อประชาชน
“เลือกตั้งครั้งนี้ เราถูกทำให้สับสน ถูกตั้งคำถามที่ผิดระหว่างต้องเลือกนักบริหารหรือนักอุดมการณ์ ผมว่าบอกไม่ต้อง เพราะเบอร์ 1 เป็นทั้งนักบริหาร นักอุดมการณ์อยู่ในคนคนเดียวกัน” นายธนาธร กล่าว
‘วิโรจน์’ปักธงรื้อกฎหมายไม่เป็นธรรม เพิ่มสวัสดิการให้คนเท่ากัน
ขณะที่นายวิโรจน์ กล่าวว่า กลยุทธ์การทำงาน และ 12 นโยบายในการขับเคลื่อน กทม. รวมถึงหลักการที่ต้องการสร้างเมืองของคนที่เท่ากัน หากกติกา ระเบียบ ข้อบัญญัติเหมือนเดิม ทุกอย่างก็เหมือนเดิม รวมถึงการจัดสรรงบประมาณแบบใหม่ หากต้องการแก้ไขสิ่งเหล่านี้ก็คือ ส.ก. ซึ่งพรรคอื่นตนไม่แน่ใจ แต่ ส.ก.ก้าวไกล พร้อมขับเคลื่อนงานทันที
นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาคนตัวใหญ่ได้บริการวีไอพี ได้ประโยชน์จากการพัฒนาเมือง แต่ไม่เคยมีจ่ายด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ยกตัวอย่าง ขยะหน้าบ้านต้องรอรถขยะที่ไม่รู้จะมาเมื่อไร แต่กลับเจ็บใจที่ต้องเห็นรถขยะเก็บให้ห้างใหญ่เพียงแค่จ่ายไม่กี่หมื่นบาท ขณะที่ร้านสะดวกซื้อจ่ายวันละ 120 บาท นี่คือความไม่เป็นธรรมและเรื้อรังมานาน ดังนั้นเราจะเพิ่มค่าเก็บขยะกับนายทุน หรือกรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขอให้ดูดีๆ สถานีสุดท้ายควรที่จะต้องหยุดที่สถานีมีนบุรี แล้วจะไปบรรจบกับสายสีชมพู แต่อีก 800 เมตรมีสถานีแยกร่มเกล้า เจอที่ดินเปล่า 300 ไร่ ซึ่งในอนาคตต้องมีการผลักดันให้มีการจัดเก็บภาษีลาภลอย รวมถึงการปรับปรุงภาษีป้าย ภาษีที่ดิน ที่ต้องสร้างให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น
“หลายเรื่องที่ต้องทำ ส.ก.กลุ่มอื่น ผมไม่แน่ใจ แต่ ส.ก.ก้าวไกลครั่นเนื้อครั่นตัว พร้อมยกมือโหวตเต็มที่ เราไม่ได้หวังจะแค่บริหารภายใต้เงื่อนไขกระอักกระอ่วมที่ต้องยอมจำนนให้กับนายทุนอภิสิทธิ์ชน เราต้องการเข้าไปแก้กติกา เพราะถ้ากติกาเดิม กทม.ก็เหมือนเดิม ทำได้เต็มที่ก็ขอบริจาค และหลอกให้ภาคีเครือข่ายทำอะไรบังหน้า เราต้องปรับกติกาให้เป็นธรรม” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ตนยอมรับว่าเคยลังเล ถ้านโยบายที่เราคิดร่วมกันกับพรรคก้าวไกลซ้ำกับคนอื่น เราแพ้แน่ แต่ยิ่งดีเบต ยิ่งคุย ยิ่งนำเสนอกับประชาชน วันนี้คิดว่าเราชนะแน่ เพราะวิธีคิดเราไม่เหมือนเขา ไม่เหมือนใคร
นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า เราไม่ได้ต้องการแค่เปลี่ยนคน แต่เราต้องการเปลี่ยนเกม นี่คือเหตุผลที่ต้องเลือกผู้ว่าฯ กทม.ชื่อนายวิโรจน์ และ ส.ก.จากพรรคก้าวไกล ถ้าเราจัดเก็บงบประมาณได้อย่างเป็นธรรมเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราจะทำสิ่งเหล่านี้ คือ อุดหนุนตั๋วรถเมล์ใช้เงิน 700 ล้านบาท ฉีดวัคซีนปอดอักเสบให้กับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปใช้เงิน 400 ล้านบาท เติมเงินสวัสดิการให้เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ 8,000 ล้านบาท ลอกคลองทั่วเมืองใช้เงิน 2,000 ล้านบาท เพิ่มความจัดถี่การเก็บขยะ ปรับปรุงจุดทิ้งใช้เงิน 1,000 ล้านบาท ทุกวันนี้หายใจก็ต้องใช้เงิน อย่าไปเชื่อว่าโครงการเยอะแยะไม่ต้องใช้เงิน เป็นไปไม่ได้ และต่อให้เป็นไปได้ คนที่หลบเลี่ยงไม่ยอมจ่ายเราก็ต้องเก็บ คนเอาเปรียบพวกเราก็ต้องเลิก นี่คือสิ่งที่เราต้องการ เมืองที่เป็นธรรม เมืองที่คนเท่ากัน
“นี่คือยาแรงที่ผมพูดถึง ถ้าเรามีงบประมาณมากพอ บริหารด้วยความโปร่งใสสุจริต ผลประโยชน์ตกอยู่ที่ประชาชน หลายคนบอกว่ากลัวนายวิโรจน์ กลัว ส.ก.ก้าวไกล ถ้าเลือกแล้วจะเข้าไปเปลี่ยนแปลง ไปรื้ออะไรเยอะแยะไปหมด ผมบอกว่าไม่ต้องกลัว เพราะทำอยู่แล้ว สิ่งที่หวังลึกๆ หากเราแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างได้ หากเราแก้ไขกติกาให้มีความเป็นธรรม จะไม่มีผู้ว่าฯกทม.หน้าไหนกล้าแก้กลับมาเอื้อทุนใหญ่อีก กทม.จะเปลี่ยนไปอย่างถาวรตลอดกาล และถ้าสวัสดิการที่เราเติมให้กับผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการแล้ว ต่อให้นายวิโรจน์ตายไปแล้ว ก็จะไม่มีผู้ว่าฯกทม.หน้าไหนปรับลดสวัสดิการอีก” นายวิโรจน์ กล่าว