ปคบ.บุกจับ 2 สามีภรรยา เจ้าของโรงงานลักลอบผลิตไส้กรอก-อาหารปลอม หลังผลตรวจยืนยันใช้สารต้องห้าม พบมีผู้เสียชีวิตและเข้าโรงพยาบาลหลายรายหลังรับประทานเข้าไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565 พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., สั่งการ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., พ.ต.ต.ธันว์ธวัช อนุรักษนิยม สว.กก.4 บก.ปคบ. จับกุม นายสินาฤทธิ์ สระทองสีห์ทุน อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ จ.201/2565 ลงวันที่ 20 เม.ย. 2565 ข้อหา “ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารปลอม, ร่วมกันผลิตเพื่อจำหนายอาหารโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบกิจการผลิตอาหารโดยสุขลักษณะของสถานที่ผลิตอาหารไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด” โดยจับกุมตัวได้ภายในพื้นที่ ต.หนองข้างคอก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากช่วงประมาณเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ปรากฎข่าวกรณีมีเด็กจำนวนมากเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากการรับประทานไส้กรอกก่อนเกิดภาวะ methemoglobinemia (เมธฮีโมโกลบินนีเมีย) มีอาการซีด เขียว หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปคบ จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนทราบแหล่งจำหน่าย ก่อนสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 6/66 หมู่ที่ 3 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ลักลอบเปิดเป็นที่ผลิตอาหารจากเนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงผลิตภัณฑ์ไส้กรอกข้างต้น พร้อมทำการตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องจักร จำนวน 32 รายการ มูลค่ากว่า 700,000 บาท ไว้เป็นหลักฐาน รวมถึงเก็บตัวอย่างไส้กรอกต่างๆ ส่งตรวจพิสูจน์
ต่อมาได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ จำนวน 4 รายการ ไปทำการตรวจสอบเพื่อหาสารปนเปื้อน ซึ่งจากการตรวจวิเคราะห์พบว่า มีใช้วัตถุเจือปนอาหาร กรดเบนโซอิก ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารสุข (ฉบับที่418) พ.ศ.2563 ออกตามพระราชบัญญัติอาหาร (ฉบับที่2) ไม่กำหนดปริมาณการใช้ จึงต้องมาขอความเห็นชอบการใช้ ซึ่งไม่ได้ขอความเห็นชอบแต่อย่างใด ดังนั้นผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รายการ จึงเข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตามมาตรา 6(5) มีโทษตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าผลิตภัณฑ์ “หมูยอ แม่จันตรี สูตรโบราณ” และ “หมูยออุบล ดั้งเดิม Premium” มีการตรวจพบยีนจำเพาะของไก่ แต่ไม่พบยีนจำเพาะของหมู จึงเข้าข่ายเป็นอาหารที่มีฉลากเพื่อลวง จัดเป็นอาหารปลอม ตามมาตรา 27(4) ฝ่าฝืนมาตรา 25(2) มีโทษตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันถึงหนึ่งแสนบาท
จึงเชิญตัว นายสินาฤทธิ์ และ น.ส.รักทวี ขุนแพง อายุ 35 ปี ภรรยา ที่เป็นผู้ร่วมกันผลิตอาหารดังกล่าว มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ปรากฎว่ามีเพียง น.ส.รักทวี เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วน นายสินาฤทธิ์ กลับมีพฤติการณ์หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับจนนำมาสู่การตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป