เมียนมาร์ร่วมจับ-ส่งตัว 'บังลาย' เอเย่นค้ายาเสพติด หัวหน้าแก๊ง 'เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ' กลับไทย หลังหนีกบดานท่าขี้เหล็กนานนับปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565 เจ้าหน้าที่ตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของประเทศเมียนมาร์ ได้ทำการคุมตัว นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ บังลาย ผู้ต้องหาคดียาเสพติดคนสำคัญที่ทางการไทยต้องการตัว มาส่งมอบให้ กับ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. หลังจับกุมตัวได้ขณะหนีกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ เมื่อไม่นานที่ผ่านมา
สำหรับนายธวัชชัย หรือ บังลาย ถือเป็นเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ต้องการตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ จัดอยู่ในระดับสั่งการ มีเครือข่ายจำนวนมากในพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนมาก ที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเมียนมาร์ เข้ามากระจายในพื้นที่ จ.พัทลุง และอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงยังมีพฤติการณ์คอยจัดหาทีมลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ๆให้กับกลุ่มเจ้าของยาเสพติดกลุ่มอื่นจากประเทศเมียนมา ผ่านเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยเพื่อลำเลียงส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ซึ่งตัวของนายธวัชชัย จะเคลื่อนไหวอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาเป็นหลัก
นอกจากนี้ นายธวัชชัย หรือ บังลาย ยังถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่คอยให้การช่วยเหลือ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี กับพวก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม อายุ 22 ปี ในพื้นที่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ที่กลายเป็นข่าวดังครึกโครมเมื่อปี 2560 ขณะหนีไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อน น.ส.ปรียานุช และ พวก จะมาถูกทางการเมียนมาร์จับกุมพร้อมส่งตัวกลับไทย ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ดังกล่าวทางการไทยจึงได้ประสานความร่วมมือกับทางการเมียนมา ให้ช่วยกดดันกวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือ กลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศ อย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ก่อนที่ต้นปี 2563 ทางเมียนมาร์ สามารถจับกุมตัวนายธวัชชัย ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก พร้อมกับส่งตัวกลับมายังประเทศไทย แต่เนื่องจากขณะนั้น นายธวัชชัย มีเพียงหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ข้อหา " เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษ" ติดตัวเพียงแค่คดีเดียว จึงถูกตัดสินจำคุกเพียงแค่ 14 วัน เมื่อออกมาแล้วจึงย้อนกลับไปหลบซ่อนตัว เคลื่อนไหวเรื่องการค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ ตามเดิม
ต่อมา ช่วงเดือน ต.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 2 คดี แบ่งเป็น ตำรวจ บก.ปส. 4 จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาบ้า 1 ล้านเม็ด และ ตำรวจ บก.ปส.3 จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 6 คน พร้อมเฮโรอีนจำนวน 1,000 แท่ง น้ำหนักประมาณ 400 กก. จึงขยายผลต่อเนื่องจนทราบว่าผู้อยู่เบื้องหลังยาเสพติดล็อตใหญ่ทั้ง 2 คดีดังกล่าวคือ นายธวัชชัย หรือ บังลาย ผู้ต้องหารายนี้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับจำนวน 2 คดี ในข้อหา "ร่วมกันมียาเสพติดและสมคบ" และ ร่วมกันมียาเสพติด,สมคบและฟอกเงิน" พร้อมกับขยายผลกวาดล้างจับกุมเครือข่ายที่ยังอยู่ในประเทศไทย ได้จำนวนหลายราย ยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ก่อนประสานทางการประเทศเมียนมาร์ ช่วยร่วมกดดันทำให้สามารถตามจับกุมตัว นายธวัชชัย ได้อีกครั้ง จนนำมาซึ่งการส่งมอบตัวผู้ต้องหารายนี้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยอีกครั้งดังกล่าว