"...สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2564” จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 36.54 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 16.93 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อันดับ 3 ร้อยละ 10.74 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล)..."
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2564” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-21 ธันวาคม 2564 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,504 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 36.54 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 16.93 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ เป็นคนมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ บริหารงานดี นโยบายช่วยเหลือประชาชนได้จริง อันดับ 3 ร้อยละ 10.74 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีแนวคิดและอุดมการณ์ในการพัฒนาประเทศ อันดับ 4 ร้อยละ 10.55 ระบุว่าเป็น น.ส. แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ อันดับ 5 ร้อยละ 5.51 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ เป็นคนเก่ง พูดจริง ทำจริง มีประสบการณ์ด้านการบริหาร อันดับ 6 ร้อยละ 4.83 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนเก่ง กล้าพูด กล้าทำ ตรงไปตรงมา มีอุดมการณ์ในการทำงาน อันดับ 7 ร้อยละ 4.35 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 8 ร้อยละ 2.36 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะ เป็นคนมีวิสัยทัศน์ในการทำงาน มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ อันดับ 9
ร้อยละ 2.24 ระบุว่าเป็น นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย มีภาวะผู้นำ ชื่นชอบในนโยบายของพรรคเพื่อไทย อันดับ 10 ร้อยละ 1.84 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์ บริหารงานอย่างตรงไปตรงมา และร้อยละ 4.11 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) น.ส. กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคเศรษฐกิจใหม่) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายชวน หลีกภัย และ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/64 เดือนกันยายน 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) และนายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) มีสัดส่วนลดลง ในขณะผู้ที่ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 37.14 ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมือง ใดเลย อันดับ 2 ร้อยละ 23.52 ระบุว่า พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 13.18 ระบุว่า พรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 8.99 ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 5 ร้อยละ 7.15 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 2.43 ระบุว่า พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.60 ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 8 ร้อยละ 1.56 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 9 ร้อยละ 1.32 ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย อันดับ 10 ร้อยละ 1.08 ระบุว่า พรรคกล้า และร้อยละ 2.03 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทยภักดี พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชาติ และพรรคเพื่อชาติ
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/64 เดือนกันยายน 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย และพรรคกล้า มีสัดส่วนลดลง ในขณะผู้ที่ ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 8.78 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 25.80 มีภูมิลำเนาอยู่ปริมณฑล และภาคกลาง ร้อยละ 18.29 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.59 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้อยละ 13.54 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ ตัวอย่างร้อยละ 49.00 เป็นเพศชาย ร้อยละ 50.92 เป็นเพศหญิง และร้อยละ 0.08 เป็นเพศทางเลือก
ตัวอย่างร้อยละ 6.51 มีอายุ 18-25 ปี ร้อยละ 14.70 มีอายุ 26-35 ปี ร้อยละ 20.21 มีอายุ 36-45 ปี ร้อยละ 31.19 มีอายุ 46-59 ปี และร้อยละ 27.39 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 94.89 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 4.15 นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 0.48 นับถือศาสนาคริสต์ และอื่น ๆ และไม่ระบุศาสนา ในสัดส่วนที่เท่ากัน ตัวอย่างร้อยละ 23.64 สถานภาพโสด ร้อยละ 72.33 สมรสแล้ว ร้อยละ 3.55 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ และร้อยละ 0.48 ไม่ระบุสถานภาพการสมรส
ตัวอย่างร้อยละ 32.47 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 33.79 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 7.11 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 21.92 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ร้อยละ 3.95 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 0.76 ไม่ระบุการศึกษา
ตัวอย่างร้อยละ 7.83 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 13.86 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.64ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 14.62 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 15.81 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 22.64 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน ร้อยละ 2.72 เป็นนักเรียน/นักศึกษา และร้อยละ 0.88 ไม่ระบุอาชีพ
ตัวอย่างร้อยละ 21.73 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 23.24 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 24.52 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 9.99 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.59 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 5.35 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 10.58 ไม่ระบุรายได้