ตำรวจสอบสวนกลางเปิดยุทธการสอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน ต้นตอเหตุอาชญากรรม กระจายกำลังตรวจค้น 126 จุด ทั่วประเทศ เบื้องต้นตรวจยึดของกลางกว่า 1 พันรายการ
---------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย ตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆในสังกัด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ร่วมกันแถลงผลกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนตามยุทธการสอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน (CIB Ghost Guns Operation) หลังระดมพลปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดจำนวนกว่า 1,000 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 126 จุด ทั่วประเทศ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
สำหรับผลปฏิบัติการดังกล่าวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวนทั้งสิ้น 51 ราย ประกอบด้วยผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาวุธปืนจำนวน 3 ราย, ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอื่นจำนวน 2 ราย และผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติดจำนวน 46 ราย พร้อมของกลางจำนวนกว่า 1,000 รายการ แบ่งเป็นอาวุธปืนจำนวนกว่า 300 กระบอก แบ่งเป็นอาวุธปืนทั่วไปจำนวน 214 กระบอก อาวุธปืนสงครามจำนวน 4 กระบอก และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 35 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆอีกจำนวน 3,562 นัด และอุปกรณ์ส่วนควบ หรืออุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพอาวุธปืนอีกกว่า 700 รายการ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบอาวุธปืนที่ยึดมาได้ทั้งหมดอย่างละเอียดพบว่าเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนจำนวน 139 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียนจำนวน 65 กระบอก
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว สืบเนื่องจากปัจจุบัน อาชญากรรมที่มีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ กำลังกลายเป็นภัยใกล้ตัวของประชาชน เห็นได้จากกรณีของเหตุการณ์ชิงทองลพบุรี, เหตุการณ์กราดยิงโคราช, เหตุการณ์จี้ตัวประกันบนรถเมล์สาย 8 และเหตุอาชญากรรมความรุนแรงต่างๆ ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธปืนที่นำมาใช้ในการก่อเหตุส่วนใหญ่พบว่า เป็นอาวุธปืนที่มีการซื้อขายหรือครอบครองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากจะเป็นภัยต่อประชาชนเเล้ว ยังเป็นต้นเหตุของการก่อให้เกิดกลุ่มผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมที่มีความรุนเเรงในสังคม ด้วยเหตุนี้จึงสั่งการให้หน่วยงานต่างๆในสังกัดสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. บูรณาการกำลังร่วมกันสืบหาเบาะแสและข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายอาวุธปืนเถื่อนต่างๆ ทั่วประเทศ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่ปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 126 จุด ทั่วประเทศ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่สำคัญต่างๆที่ตรวจยึดอาวุธปืนได้เป็นจำนวนมากนั้น มีด้วยกัน 6 จุดหลักๆ อยู่ในพื้นที่ กทม. เชียงราย นครปฐม สุพรรณบุรี ปทุมธานี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งผลิต และ แหล่งจำหน่าย ทั้งนี้จากการแนวทางสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับในคดีครอบครองอาวุธปืนเถื่อนวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการทำเพื่อการค้า และ กลุ่มคนเล่นปืนหรือนักสะสมปืน ส่วนเส้นทางที่ไปที่มาของอาวุธปืนเถื่อนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ หรือ อย่างใกล้ก็ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็มีบางส่วนที่ผลิตดัดแปลงขึ้นมาเอง โดยขั้นตอนหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำอาวุธปืนทั้งหมดส่งต่อไปให้กับทางกองพิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ. ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์เทียบเคียงกับคดีเก่าต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อคดีใดมาแล้วหรือไม่
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้ามารับตำแหน่ง ผบช.ก. ยืนยันว่า ทางตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จะยึดมั่นในแนวทางการปราบปรามอาชญากรรมเป็นหลัก โดยจะมุ่งเน้นไปที่คดีที่มีความสำคัญ เกี่ยวพันซับซ้อน หรือ อาชญากรรมความรุนแรงทุกประเภท ที่ส่งผลกระทบต่อสังคม หรือความมั่นคงของประเทศ ผู้มีอิทธิพล รวมถึงอาชญากรรมเฉพาะทาง เพราะเรามีหน่วยงานในสังกัดที่รับผิดชอบครอบคลุมคดีแต่ละประเภทอยู่แล้ว ท้ายนี้ยืนยันว่า ตำรวจสอบสวนกลางจะให้ความยุติธรรม ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพเป็นกลางเคียงข้างประชาชน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage