ผู้ต้องขังติดเชื้อใหม่ 313 ราย รักษาหายอีก 595 ราย เสียชีวิต 4 ราย กรมราชทัณฑ์ เผยเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา พ้นการระบาดเพิ่ม 1 แห่ง พร้อมกำชับทุกฝ่าย เร่งดำเนินการแผนใช้ยาฟ้าทะลายโจร
------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงนว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2564 นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ในเรือนจำและทัณฑสถาน พบเรือนจำพ้นการระบาดเพิ่ม 1 แห่ง คือ เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา และไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่ม ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดง รวมทั้งสิ้น 36 แห่ง และมีเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 106 แห่ง
ขณะที่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 313 ราย มาจากในเรือนจำสีแดง 297 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 16 ราย รักษาหายเพิ่ม 595 ราย เสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 7,598 ราย แบ่งเป็น กลุ่มสีเขียว 83.2% สีเหลือง 16.5% และสีแดง 0.3% เป็นพื้นที่ กทม. 437 ราย ปริมณฑล 2,020 ราย และต่างจังหวัด 5,141 ราย โดยมี ผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 42,391 ราย หรือ 83.7% ของผู้ติดเชื้อสะสม 50,670 ราย เสียชีวิตสะสม 74 ราย คิดเป็นอัตรา 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางสมุทรปราการ 3 ราย และเรือนจำกลางขอนแก่น 1 ราย จากข้อมูลพบเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งได้ดำเนินการดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และมีการส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอก แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิดเป็นที่เรียบร้อย
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ศบค.ยธ. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมเพื่อมอบนโยบายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อภายในเรือนจำและทัณฑสถาน โดยได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดและมีความรวดเร็วในการดำเนินการ โดยเฉพาะการจัดหาและใช้ยาฟ้าทะลายโจรในผู้ต้องขัง เพื่อการเสริมภูมิคุ้มกัน และลดความรุนแรงของโรค โดยได้สั่งการให้ทุกเรือนจำและทัณฑสถานเร่งจัดหายาฟ้าทะลายโจร เพื่อเตรียมพร้อมแก่ผู้ต้องขังทุกราย อย่างน้อยรายละ 50 แคปซูล พร้อมศึกษาการทำงาน และการใช้ยาฟ้าทะลายโจร อย่างถูกต้อง ภายใต้คำสั่งของแพทย์ และคำแนะนำของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คาดว่าหากมีการจ่ายยาฟ้าทะลายโจรอย่างเป็นระบบและทันเวลา ควบคู่กับแผนการคัดกรองและรักษาอย่างรวดเร็วที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด จะช่วยไม่ให้มีผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำเพิ่มขึ้น ลดความรุนแรงของโรค และลดอัตราการเสียชีวิตลง ทำให้สามารถควบคุม การระบาดของโรคได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมในวันนี้ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งการทำงานของเจ้าหน้าที่และการป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อ การดูแลทำความสะอาดฆ่าเชื้อสิ่งของและสถานที่ รวมทั้งการดูแลผู้ต้องขัง โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคประจำตัว ที่ต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อและทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นได้
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม โดยมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวทั้งหมด 54 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 17 ราย และเด็กและเยาวชน 37 ราย ขณะที่ผลการดำเนินงานสถานพินิจฯและศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 44 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 12 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและรอผล 3 แห่ง หมดสถานะสีขาว 2 แห่ง และติดเชื้อ 7 แห่ง สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนคงที่ 121 ราย หรือคิดเป็น 2.86% จากทั้งหมด 4,226 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 3,794 ราย หรือคิดเป็น 86.96% จากทั้งหมด 4,363 ราย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage