กองปราบบุกทลายเครือข่ายปืนเถื่อนออนไลน์ 16 จุดทั่วประเทศ จับหนุ่มโรงกลึง ต้นตอลักลอบผลิต-ดัดแปลง
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 ก.ค. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคําปัน รอง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. พร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นหอพักพนักงานโรงกลึงแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อจับกุมนายประจักษ์ พูลเพียร อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1068/2564 ลงวันที่ 2 ก.ค. 2564 ข้อหา “ร่วมกันผลิตหรือรับซ่อมแซมดัดแปลงอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ,สั่งนำเข้าหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ,และมีหรือครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต”
โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายประจักษ์ กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในห้องพัก จึงแสดงตัวพร้อมหมายศาลเพื่อเข้าจับกุม ก่อนตรวจค้นภายในห้องพักพบอาวุธปืนปากกา และ ปืนแบลงค์กัน หรือ ปืนเสียงเปล่า ที่ถูกดัดแปลงให้สามารถใช้งานได้เหมือนปืนปกติจำนวนหลายกระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และอุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืนอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีขบวนการลักลอบผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ มีการตั้งกลุ่มลับผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อใช้เป็นช่องทางติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนกันโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงนำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสเพิ่มเติม กระทั่งทราบว่า นายประจักษ์ ผู้ต้องหารายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว โดยทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตและรับดัดแปลงสิ่งเทียมอาวุธให้สามารถใช้งานได้เทียบเท่ากับอาวุธปืนปืนทั่วไป
จากการสอบถาม นายประจักษ์ ให้การรับสารภาพ ว่า มีอาชีพเป็นพนักงานโรงกลึงดังกล่าว แต่รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ ภาระค่าใช้จ่ายสูง จึงหันมาร่วมกับพวกลักลอบผลิตปืนปากกา หรือ นำสิ่งเทียมอาวุธพวกปืนบีบีกัน ปืนแบลงค์กัน หรือ ที่รู้จักกันในชื่อปืนเสียงเปล่า มาดัดแปลงติดลำกล้องให้สามารถใช้งานได้เหมือนอาวุธปืนจริงทั่วไป แล้วนำไปขายต่อให้กับพ่อค้าคนกลาง ที่มารับซื้อไปขายต่ออีกทอดหนึ่งในกลุ่มรับซื้อขายปืนเถื่อนออนไลน์ ที่เปิดขึ้นมาเพื่อใช้เป็นช่องทางติดต่อซื้อขายปืนเถื่อนกันโดยเฉพาะ โดยทำมาแล้วนานกว่า 2 ปี ผลิตปืนขายได้แล้วกว่า 100 กระบอ
นายประจักษ์ ให้การอีกว่า สำหรับลำกล้องปืนส่วนใหญ่จะทำขึ้นมาเอง เพราะพอมีความรู้เกี่ยวกับกลไกเครื่องมือการกลึงเหล็กอยู่บ้าง เนื่องจากเรียนจบการศึกษาระดับ ปวส. จากวิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครูเพชรเกษม เกี่ยวกับช่างกลมา ส่วนเครื่องมือและอุปกรณ์ ที่ใช้ผลิตจะเป็นของโรงกลึงที่ตนเองทำงานอยู่ โดยจะอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่ แอบเข้าไปใช้งาน ซึ่งต้นทุนในการผลิตขึ้นอยู่กับประเภทของปืน อาทิ ปืนปากกาผลิตเองทั้งชิ้น ต้นทุนจะอยู่ที่ 400 บาท ขายให้พ่อค้าคนกลางในราคา 1,100 บาท ก่อนนำไปขายต่อให้ลูกค้าในราคา 1,600 บาท ส่วนปืนแบลงค์กันและปืนบีบีกัน ต้นทุนจะอยู่ที่ 8,000 - 9,000 บาท เมื่อดัดแปลงติดลำกล้องเสร็จจนสามารถใช้งานได้จริงแล้ว จะขายอยู่ในราคา 16,000 ถึง 20,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรุ่นของปืน
อย่างไรก็ตามนอกจากการเข้าตรวจค้นจับกุมจุดดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. ยังได้แบ่งกำลังนำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอื่นๆในพื้นที่ จ.นครสววรค์ จ.เพชรบูรณ์ จ.อุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.อ่างทอง จ.นนทบุรี และ จ.นครปฐม อีก 15 จุด เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวที่เหลืออีก 5 หมายจับ ซึ่งทางตำรวจกองปราบปรามฯจะมีการสรุปภาพรวมของปฏิบัติการดังกล่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/