ผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 44 ราย รักษาป่วยอีก 429 ราย รวมรักษาหายแล้ว 92% เสียชีวิต 2 ราย กรมราชทัณฑ์เผยเรือนจำในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล ผู้ป่วยระหว่างรักษาต่ำกว่า 2 พันรายเป็นวันแรก
..............................
วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2564 เวลา 14.00 นาฬิกา นายอายุตมั สินธพพันธุ์ อธิบตีกรมราชทัณฑ์ เผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบผู้ต้องขังติคเชื้อรายใหม่เพียง 44 ราย รักษาหายเพิ่ม 429 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณท์ 2,501 ราย
ภาพรวมของเรือนจำสีขาวและเรือนจำสีแดงยังคงเท่าเดิม คือ เรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาค 125 แห่ง และเรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาด 9 แห่ง ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นการติดเชื้อจากแดนในของเรือนจำสีแดง 39 ราย ตรวจพบเชื้อในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 5 ราย ได้แก่ เรือนจำกลางชลบุรี 3 ราย เรือนจำกลางสมุทรปราการ และเรือนจำอำเภอธัญบุรี แห่งละ 1 ราย โดยมีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหาย สะสม 33,389 ราย หรือ 92% เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมทั้งสิ้น 43 ราย หรือ 0.19 ของจำนวนผู้คิดเชื้อสะสม
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้นับเป็นวันแรกที่ยอดผู้ติดเชื้อระหว่างรักษาของพื้นที่ กทม.ลดลงต่ำกว่า 2 พันราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียว ที่เมื่อได้รับการดูแสรักษาจะหายได้ในระยะเวลา 14 วัน จึงคาดว่จะมีผู้ป่วยที่หายเพิ่มอีกกว่า 1 พันรายในช่วงตันเตือนนี้ ส่งผลให้การแพร่ระบาดในเรือนจำพื้นที่ กทม.น่จะดีขึ้นตามลำดับ ส่วนในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด พบเพียง 4 แห่ง ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง คือ เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางสงขลา และทัณฑสถานหญิงสงขลา ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งตรวจหาเชื้อเพื่อให้ใด้รับการรักษาที่รวดเร็ว ช่วยลดผู้ป่วยหนัก ลดการเสียชีวิต และควบคุมสถานการณ์ใต้โดยเร็ว
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายในวันนี้ รายแรกเป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 44 ปี จากเรือนจำกลางบางขวาง มีโรคประจำตัว ไตวายระยะสุดท้าย เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เข้ารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีอาการเหนื่อย ร่วมกับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดจากแผลกดทับ ให้การรักษาด้วยยา Favipiravr ยาปฏิชีวนะระดับสูง กระทั่งวันที่ 29 มิ.ย. ผู้ป่วยมีอาการซึมลง วัดสัญญาณชีพไม่ได้ ได้ทำการช่วยชีวิตตามกระบวนการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 44 ปี รักษาตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีโรคประจำตัว ไตวายระยะสุดท้าย มีอาการหอบเหนื่อย มีไข้ X-ray พบปอดอักเสบรักษาโดย Oxygen HFNC Favipiravir Dexamethasone ยาปฏิชีวนะระดับสูง ต่อมาผู้ป่วยมีภาวะความค้นโลหิตต่ำ ให้ยาปรับความดันโลหิต Levophed ได้ประสานญาติผู้ป่วยทราบและการตัดสินใจของผู้ป่วย เรื่องการรักษาแบบประคับประคอง ญาติรับทราบและยินยอมตามการตัตสินใจของผู้ป่วย กระทั่งในวันที่ 29 มิ.ย. ผู้ป่วยมีอาการซึมลง วัดสัญญาณพไม่ได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage