'กลาโหม' สั่งสนธิกำลังเร่งด่วน ปิดแคมป์คนงาน ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล พร้อมจัดกำลังสนับสนุน 4 จังหวัดชายแดนใต้ คุมการเคลื่อนย้ายของประชาชนข้ามเขต เพื่อหยุดการกระจายเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่พบการติดเชื้อในพื้นที่
..........................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2564 จากกรณี นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ร่วมกับคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิดเมื่อวานนี้ ซึ่งที่ประชุมฯ มีความห่วงใยกลุ่มคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นในแคมป์ที่พักคนงานต่าง ๆ ที่มีการเดินทางจากแคมป์ที่พักอาศัยไปสู่สถานที่ก่อสร้าง โดยเฉพาะในพื้นที่กทม. และปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา จึงได้มีมติให้ปิดแคมป์คนงานเหล่านี้เป็นการชั่วคราว เพื่อระงับการแพร่ระบาด โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลค่าใช้จ่าย เงินค่าจ้างชดเชย ให้แก่ลูกจ้างแทนผู้ประกอบการ ในช่วงที่มีการประกาศปิด 1 เดือน
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานจะประสานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อลงไปในพื้นที่และพบกับผู้ประกอบการ เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงมาตรการความช่วยเหลือจากรัฐบาล พร้อมกับขอความร่วมมือในการงดการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดในเวลานี้
ล่าสุด พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมด่วนของ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมด่วน หน่วยงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก กระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และตำรวจ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด จากสถานการณ์ภายในประเทศและภูมิภาคที่ยังคงมีแนวโน้มระบาดต่อไป ว่า ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศรอบบ้าน ยังคงรุนแรงและน่ากังวลในมาเลเซีย เมียนมา และกัมพูชา พบการแพร่ระบาดและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองในเมียนมา มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้หลบหนีข้ามแดนมายังไทยมากขึ้น สถิติการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง ระหว่าง 19-23 มิ.ย.2564 จับกุมได้จำนวน 830 คน แบ่งเป็นเมียนมา 202 คน กัมพูชา 210 คน ลาว 85 คน คนไทย 155 คน และ ผู้นำพา 7 คน ขณะที่ภายในประเทศ ยังคงพบการแพร่ระบาดต่อเนื่อง โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน เป็นระยะในพื้นที่เสี่ยง เช่น แคมป์คนงาน ตลาดสดและชุมชนแออัด ในขณะที่ระบบสาธารณสุข เริ่มมีข้อจำกัดในการรับมือกับผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยสีแดง
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวย้ำนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ กอ.รมน. ทุกเหล่าทัพ และตำรวจ ว่า ขอให้เร่งเตรียมและบูรณาการกำลังสนับสนุนข้อกำหนดของ ศบค. ที่จะประกาศบังคับใช้เป็นมาตรการเฉพาะในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อจำกัดควบคุมโรคเฉพาะกลุ่มและกิจกรรมในพื้นที่เสี่ยงสูงอย่างเข้มงวด ไม่ให้ขยายออกนอกพื้นที่จนไม่สามารถควบคุม
พร้อมย้ำคำสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ประสานกับ กทม. และทุกจังหวัด บูรณาการจัดกำลังเร่งด่วนร่วมกัน เข้าไปสนับสนุนควบคุมจำกัดพื้นที่ทุกแคมป์และไซต์คนงานก่อสร้างเป้าหมายทั้งใน กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่พบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนจำนวนมากทันที โดยให้เร่งตรวจคัดกรองเชิงรุกและนำเข้าสู่ระบบการรักษาควบคุมโรคโดยเร็ว รวมทั้งขอให้ขยายผลประชาสัมพันธ์ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยียวยาค่าแรงรายวันระหว่างการควบคุมดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้ทุกเหล่าทัพ จัดรถครัวสนามพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็น สนับสนุนทุกชุมชนและคลัสเตอร์ที่เข้าไปควบคุมการปฏิบัติไปพร้อมๆกัน
สำหรับพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ให้จัดกำลังสนับสนุนจังหวัด ควบคุมจำกัดการเคลื่อนย้ายของประชาชนข้ามเขต เพื่อหยุดการกระจายเชื้อสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) ที่กำลังแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในมาเลเซียเข้าไทย ซึ่งปัจจุบันพบการติดเชื้อกับประชาชนใน 4 จังหวัดแล้ว โดยมีการเชื่อมโยงแพร่เชื้อข้ามเขตผ่านการเคลื่อนย้ายของประชาชนไปมา ทั้งนี้ให้จัดตั้งด่านตรวจร่วม กวดขันและจำกัดไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นกลุ่มก้อนข้ามเขต และประชาชนในพื้นที่กำหนด จนกว่าจะมีมาตรการผ่อนคลาย
พร้อมกันนี้ ขอให้ทุกเหล่าทัพ ประสานทำงานร่วมกับ สธ. อย่างใกล้ชิด เร่งเข้าไปเสริมและสนับสนุนแก้ปัญหาเร่งด่วนในการขาดแคลนเตียงผู้ป่วยสีแดง โดยให้พิจารณาขยายขีดความสามารถสูงสุดของโรงพยาบาลทหารในสังกัด เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยห้อง ICU รองรับสถานการณ์ และให้เตรียมการสนับสนุนหากจำเป็นต้องจัดสร้างห้องผู้ป่วยความดันลบเพิ่มเติม โดยให้พิจารณาบูรณาการบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกันกับทุกหน่วยงาน
นอกจากนั้น พล.อ.ชัยชาญ ยังกล่าวย้ำอีกว่า ขอให้กองกำลังป้องกันชายแดนทหารและตำรวจ ยังคงต้องเพิ่มความเข้มงวดกวดขันมาตรการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร และเพิ่มความถี่เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเฉพาะชายแดน มาเลเซีย กัมพูชา และเมียนมา โดยให้เพ่งเล็งคนไทยที่ลักลอบข้ามแดนไปมา กับบ่อนพนันและสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน และการคงเข้มมาตรการควบคุมโรคควบคู่กันไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/